โรงกลั่นน้ำมันในเอเชียกำลังพยายามหาแหล่งน้ำมันดิบอื่นเพื่อมาทดแทนน้ำมันดิบของคูเวต หลังจากคูเวตประกาศปรับลดการส่งออกน้ำมันลงเกือบ 1 ใน 5 เพื่ออัดฉีดให้แก่โรงกลั่นขนาดใหญ่แห่งใหม่ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบที่มีกำมะถันสูง (sour crude) พุ่งสูงขึ้นและมีทำให้กำไรลดลง ครึ่งหลังของปี 2566 คูเวตจะปรับลดการส่งออกลงสูงสุด 300,000 บาร์เรลต่อวัน หรือ 18% จากช่วงครึ่งแรกของปี เนื่องจากคูเวตต้องการอัดฉีดน้ำมันดิบ 615,000 บาร์เรลต่อวันให้กับโรงกลั่นอัลซอร์
นักวิเคราะห์อาวุโสจากบริษัทริสตัด เอเนอร์จี มองว่า "ซาอุดีอาระเบียและ UAE จะเข้ามาเป็น 2 ผู้ค้านำมันหลักที่จะมาจัดการกับช่องว่างอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง เนื่องจากมีศักยภาพสูงในการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบที่มีกำมะถันเจือปนปานกลาง อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ประเทศอาจไม่สามารถตอบสนองอุปสงค์ได้ทั้งหมด
เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 35.39 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเปิดตลาดวันนี้ สัปดาห์หน้า ตลาดจับตาปัจจัยสำคัญในประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง โดยด้านเศรษฐกิจสภาพัฒน์จะ มีการประกาศ GDP ไตรมาส 2/2566 ส่วนการเมือง รัฐสภาจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย
ด้านปัจจัยต่างประเทศสัปดาห์หน้า นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปี ของเฟด ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในช่วงวันที่ 24-26 ส.ค. ว่าจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ อย่างไร
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,519.12 จุด ลดลง 9.69 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,886.66 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 28.81 ลบ.(SET+MAI)
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้เป็นวันที่สามติดต่อกัน แตะจุดต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนและความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในสหรัฐ ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 31,450.76 จุด ลดลง 175.24 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน หลังจากบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน ได้ยื่นคำร้องขอพิทักษ์ทรัพย์ตามกฎหมายล้มละลาย ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ 17,950.85 จุด ร่วงลง 375.78 จุด
#น้ำมันในเอเชีย
#หุ้นไทยและเอเชีย
แฟ้มภาพ