ความคืบหน้ากรณีอดีตแพทย์อายุรกรรม และอดีต ผอ.ศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาเกษียณราชการ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน โดยสร้างสถานการณ์ว่า มีพัสดุผิดกฎหมาย แล้วให้คุยกับผู้กำกับการ สภ.เมืองเชียงรายตัวปลอม ข่มขู่ให้ผู้เสียหายกลัว และหลอกให้โอนเงินไปให้มิจฉาชีพทั้งสิ้น 101,871,381 บาท เหตุเกิดเมื่อเดือน ก.ย.65
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ สั่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนรวบรวมหลักฐานกลุ่มขบวนการที่เกี่ยวข้อง จนจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุไปแล้วหลายราย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ลงพื้นที่หาข้อมูล จนทราบว่ามีผู้ต้องหาคนสำคัญในขบวนการดังกล่าว และยังเป็นบุคคลตามประกาศสืบจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.5 ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ จึงนำกำลังเข้าจับกุมนายชลวิชา อายุ 33 ปี ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ฯ และร่วมกันฟอกเงิน”
ผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่า เดิมเคยเป็น รปภ. แต่มีปัญหาทางการเงิน จึงสมัครงานผ่านเพจหางานคาสิโนในเฟชบุ๊ก แอดมินเพจแจ้งเพียงว่า มีลักษณะการทำงานเป็นแอดมินโต้ตอบกับลูกค้า จึงเดินทางข้ามชายแดนทางพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แล้วมีคนมารับข้ามไปยังประเทศกัมพูชา เมื่อไปถึงกลับพบว่าเป็นการทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเหยื่อโอนเงิน โดยจะมีคนสอนให้พูดตามสคริปต์ ให้รับบทเป็น ผกก.สภ.เมืองเชียงราย มีสัญญาการทำงาน 6 เดือน มีค่าตอบแทน 30,000 บาทต่อเดือน และจะได้รับค่าคอมมิสชั่นเพิ่ม หากทำงานถึงยอดตามเป้า เมื่อครบกำหนด 6 เดือน จึงเดินทางกลับมาประเทศไทยและถูกจับกุมในที่สุด
#แก๊งคอลเซ็นเตอร์
#หลอกโอนเงิน
#มิจฉาชีพ
#ตำรวจไซเบอร์