ไบเดนเยือนฮาวาย จันทร์หน้า ทีมกู้ภัยสหรัฐฯเร่งสำรวจพื้นที่ที่เสียหายไฟป่าบนเกาะเมาวี พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม

          ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างนายจอห์น เพลเลเทียร์ หัวหน้าตำรวจเกาะเมาวี รัฐฮาวาย สหรัฐฯว่า ทีมกู้ภัยหลายร้อยคนได้ทำการสำรวจพื้นที่ที่เสียหายจากไฟป่าบนเกาะเมาวี จนถึงบ่ายวันพุธ ทีมกู้ภัยของได้ทำการค้นหาเสร็จแล้วร้อยละ 38 ของพื้นที่ที่เสียหายจากไฟป่า พบศพเพิ่มเติม ทำให้ตัวเลขรวมของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 111 ราย แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มอีกเพราะการค้นหาของทีมกู้ภัยยังไม่สิ้นสุด  

          สถานการณ์ไฟป่าในรัฐฮาวาย นับว่ารุนแรงที่สุด ทั้งในแง่ของพื้นที่ไฟป่าและในแง่ของจำนวนผู้เสียชีวิต และเป็นภัยพิบัติที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น แม้แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยบางคนก็สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักหรือสมาชิกในครอบครัวเช่นกัน ส่วนการเก็บกู้ซากความเสียหาย โดยเฉพาะซากรถยนต์คาดว่าจะทำได้เสร็จสิ้นภายในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้

         นายจอช กรีน ผู้ว่าการรัฐฮาวาย กล่าวว่า การค้นหาร่างผู้เสียชีวิตตามซากเถ้าถ่านของบ้านเรือน ร้านค้าและแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดเด่นของท้องถิ่นที่เสียหายจากไฟป่านับเป็นภารกิจที่ยากอยู่แล้ว แต่การตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ก็ยากลำบากเช่นเดียวกัน เนื่องจากศพส่วนใหญ่ถูกไหม้เกรียมกระทั่งไม่มีใครจดจำใบหน้า และไม่พบแม้กระทั่งลายนิ้วมือสำหรับใช้ตรวจดีเอ็นเอกับญาติของผู้ตาย

           ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของรัฐฮาวาย ขอให้ครอบครัวของผู้สูญหายมอบตัวอย่างดีเอ็นเอให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เพื่อจะนำมาตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลกับผู้เสียชีวิตว่าตรงกันหรือไม่ จนถึงวันอังคาร มีญาติของผู้เสียชีวิตหรือผู้สูญหาย 41 คนได้ส่งหลักฐานดีเอ็นเอให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของศพ

           นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เขตเมาวี เคาน์ตี เปิดเผยรายชื่อผู้ตาย 5 รายแรกคือ นางเมลวา เบนจามิน อายุ 71 ปี นายเวอร์จิเนีย โดฟา อายุ 90 ปี นายอัลเฟรโด กาลินาโต อายุ 79 ปี นายโรเบิร์ต ดิ๊กแมน อายุ 74 ปี และนายบัดดี แจนท็อค อายุ 79 ปี ทั้งหมดเป็นอาศัยอยู่ในเมืองลาไฮนา ส่วนผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ครอบครัวได้เปิดเผยชื่อผู้เสียชีวิตบ้างแล้วเช่นกัน 

         ด้านทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนและนางจิล สตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯจะไปเยือนรัฐฮาวายในวันจันทร์หน้า

#ไฟป่าสหรัฐฯ