*แรงงานไทย ร้องภาครัฐปรับค่าแรงและสวัสดิการด้านสาธารณสุขให้สอดคล้องกับสภาพสังคม-ศก.*

ชีวิตแรงงานไทยกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบัน  มีการจัดกิจกรรมวันแรงงาน 1 พ.ค. 2558 ที่ท้องสนามหลวง นายสมศักดิ์ สุขยอด ผู้ใช้แรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ จังหวัดระยอง เดินทางมาร่วมกิจกรรมที่กรุงเทพฯ เล่าให้ฟังถึงรายได้และรายจ่ายในชีวิตประจำวัน ว่า สภาพเศรษฐกิจในปัจุบันค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น ราคาสินค้าอาหารก็ปรับขึ้น เมื่อก่อนเราจะเห็นว่า ราคาอาหารจานเดียวอยู่ที่ราคาประมาณ 20-25 บาท แต่ตอนนี้ราคาปรับสูงขึ้นเป็น30-35 บาท แต่ค่าแรงงานขั้นต่ำยังอยู่ที่ 300 บาท จึงไม่พอกับค่าใช่จ่ายในชีวิตประจำวัน อยากให้รัฐบาลแก้ไขปรับปรุงด้วยการอนุมัติขึ้นค่าครองชีพให้กลุ่มผู้ใช้แรงงานให้สูงขึ้น หรือ อยู่ที่ 360-420บาท เพื่อให้สามารถพออยู่ได้ เพราะแต่ก่อนภาคแรงงานนอกจะมีรายได้ประจำ ก็มีรายได้พิเศษจากการทำงานล่วงเวลา แต่ปัจจุบันด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดีนายจ้าง จึงไม่มีการเพิ่มชั่วโมงทำงานล่วงเวลาเหมือนก่อน จึงทำให้รายได้ไม่มากนัก นอกจากเรื่องค่าครองชีพแล้วอยากให้รัฐบาลดูแลในด้านสวัสดิการด้านการบริการสาธารณสุขให้มีความเท่าเทียมกันทั้งแรงานในระบบและนอกระบบ เพราะปัจจุบันสวัสดิการด้านสาธารณสุข มีคุณภาพที่ต่างกันระหว่างประกันสังคม กับบัตรทอง จึงอยากให้รัฐส่งเสริมคุณภาพสวัสดิการเหล่านี้ เพื่อที่จะทำให้ผู้ใช้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ด้านนางพิมล สืบสาย กลุ่มผู้ใช้แรงงานนอกระบบ เปิดเผยว่า ตัวเองและเพื่อนๆ เมื่อก่อนทำงานอยู่ในโรงงาน แต่พอโรงงานเลิกจ้าง ก็ต่างคน ต่างแยกย้ายไปประกอบอาชีพ เช่น รับจ้าง ,แม่ค้า หาบเร่ ,ขับจักรยานยนต์รับจ้าง เป็นต้น ซึ่งรายได้ไม่มีความแน่นอน คุณภาพชีวิตก็อยู่ตามอัตภาพ  จึงอยากให้รัฐบาลนี้ ช่วยสนับสนุนส่งเสริมคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้ใช้แรงงานนอกระบบให้ดีขึ้น อย่างมั่นคง เพราะปัจจุบันรายได้ก็ไม่พอกับค่าใช้จ่าย  รวมถึงอยากให้รัฐบาลเพิ่มสวัสดิการค่าครองชีพผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นด้วย

วิรวินท์