นายเจเรมี กรีนเบิร์ก เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสำนักจัดการภาวะฉุกเฉินกลาง (FEMA)ของสหรัฐฯเปิดเผยกับบีบีซีว่า สหรัฐฯระดมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ ทีมกู้ภัยและทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากท้องที่อื่นๆเข้าไปยังรัฐฮาวาย เพื่อสนับสนุนงานด้านการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล การค้นหาและกู้ภัย และการดับไฟป่าร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น หลังมีผู้เสียชีวิต 89 ราย บ้านเรือนถูกไฟป่าเผาวอดกว่า 2,000 หลัง นับแต่เกิดไฟป่าเมื่อวันอังคารที่แล้ว
หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มอีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยังไม่สามารถติดต่อกับชาวบ้านราว 1,000 คน ซึ่งในกลุ่มนี้ ชาวบ้านหลายคนอาจจะอพยพเข้าไปยังสถานที่ปลอดภัยแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่นยังไม่สามารถติดต่อได้ด้วยสาเหตุต่างๆ เช่น ระบบเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือถูกไฟเผาเสียหาย
ศูนย์ป้องกันภัยพิบัติประจำมหาสมุทรแปซิฟิก(PDC)และ FEMA ซึ่งทำหน้าที่ประสานระหว่างรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐฮาวายกับรัฐบาลกลางของสหรัฐฯในเรื่องแผนเยียวยาทางการเงิน ประเมินว่า งบประมาณในการฟื้นฟูชุมชนบนเกาะเมาวีจะสูงถึง 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ชาวบ้านจำนวนมากยังคงพักอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว หลังหนีไฟป่าตั้งแต่วันอังคารที่แล้ว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของรัฐฮาวายยังคงปฏิบัติงานอยู่ในในหลายท้องที่ของเกาะเมาวี โดยเฉพาะไฟป่าในเมืองลาไฮนา ซึ่งเป็นท้องที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด
สำนักอัยการสูงสุดของรัฐฮาวายเริ่มทำการสอบสวนเรื่องการตอบสนองของหน่วยงานท้องถิ่นต่อเหตุไฟป่า หลังหลายฝ่ายตั้งคำถามว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของรัฐฮาวายแจ้งเตือนชาวบ้านในเวลาอันรวดเร็วหรือไม่ หรือไม่ หรือดูว่า ระบบแจ้งเตือนภัยต่างๆของรัฐฮาวายมีข้อบกพร่องอะไรที่ต้องปรับปรุงแก้ไข รวมถึงข้อร้องเรียนว่า บริษัทฮาวาย อิเล็คทริก ผู้ให้บริการไฟฟ้าของรัฐฮาวาย ไม่ยอมตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อช่วยลดความเสียหายจากไฟไหม้บ้านเรือน แม้ว่าจะได้รับการแจ้งเตือนจากหลายฝ่ายว่า ลมแรงทำให้ไฟป่าโหมไหม้บ้านเรือนเร็วขึ้น
#ไฟป่ารัฐฮาวาย