สำนักข่าวเกียวโดรายงาน กระทรวงสื่อสารและกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นในเดือนมี.ค. ปรับตัวลดลง ร้อยละ10.6 เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 317,579 เยน นับว่าลดลงเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน และร่วงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2544
ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนในญี่ปุ่นยังคงซบเซาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับขึ้นภาษีการบริโภคจาก ร้อย 5 เป็น ร้อยละ 8 เมื่อเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ขณะเดียวกันรายได้ต่อเดือนโดยเฉลี่ยของครัวเรือนญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ร้อยละ 0.3 แตะ 449,243 เยน ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 18 ติดต่อกัน
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้น ร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบรายปี ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22
ด้านดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดที่มีความผันผวนสูง อยู่ที่ระดับ 103.0 เมื่อเทียบกับฐาน 100 ของปี 2553 ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยว่า การปรับขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นราว 2% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเป็นปัจจัยบ่งชี้หลักของการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 60 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่น