คนญี่ปุ่นสูบบุหรี่ลดลง! หลังกฎหมายฉบับใหม่บังคับใช้ ห้ามสูบในที่สาธารณะปรับสูงสุด 3 แสนเยน

          กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น รายงานผลการสำรวจที่พบว่า อัตราการสูบบุหรี่ทั้งในกลุ่มผู้ชายและผู้หญิงในญี่ปุ่นลดลงอย่างต่อเนื่องในปี 2565  เป็นผลจากการที่กฎหมายส่งเสริมสุขภาพฉบับใหม่ที่มุ่งแก้ไขปัญหาบุหรี่มือสอง ซึ่งเริ่มใช้ในเดือนเมษายน 2563 ประกอบไปด้วยการห้ามสูบบุหรี่ในอาคาร และอีกหลายสถานที่ ส่งผลทำให้ อัตราการสูบบุหรี่ของผู้ชายลดลงร้อยละ 3.4 จากการสำรวจครั้งก่อนในปี 2562 เป็นร้อยละ 25.4

          ในขณะที่อัตราการสูบบุหรี่ของผู้หญิงลดลงร้อยละ 1.1 มาอยู่ที่ร้อยละ 7.7

          ที่น่าสนใจ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งที่เคยตอบว่า "สูบทุกวัน" หรือ "สูบเป็นบางครั้ง" โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชาย พบว่า ตัวเลขในปี 2565 ลดลงเหลือ 1 ใน 4 คน จากระดับ 1 ใน 2 คน เมื่อปี 2544 ซึ่งผู้ชายร้อยละ 48.4 จะสูบบุหรี่ แต่ผลสำรวจล่าสุด ยังแสดงให้เห็นว่าอัตราการสูบบุหรี่สูงที่สุดในกลุ่มผู้ชายอายุ 40 ปี ลดลงมาอยู่ที่ ร้อยละ 34.6 รองลงมาคือผู้ชายอายุ 50 ปี ร้อยละ 32.6และ อายุ 30 ปี อยู่ที่ร้อยละ 29.9

           ส่วนผู้หญิงผู้ที่มีอายุ 50 ปีคิดเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดที่ร้อยละ 12.0  รองลงมาคือผู้ที่มีอายุ 40 ปีคิดเป็นร้อยละ 11.6 และผู้หญิงในวัย 30 ปีคิดเป็นร้อยละ 9.0 แม้ว่าอัตราการสูบบุหรี่ในกลุ่มคนอายุ 30 ถึง 50 ปีจะสูงเป็นพิเศษ แต่ถือว่า ลดลงจากการสำรวจในปี 2562

          สำหรับกฎหมายที่แก้ไข ได้กำหนด พื้นที่ปลอดบุหรี่ ประกอบด้วยโรงเรียน โรงพยาบาล และสำนักงานของรัฐบาลส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น โดยกฎหมายอนุญาตให้หน่วยงานเหล่านี้กำหนดพื้นที่สูบบุหรี่กลางแจ้งและติดป้ายห้ามสูบบุหรี่ภายในอาคาร ผู้ดูแลหน่วยงานเหล่านี้อาจต้องเสียค่าปรับสูงถึง 500,000 เยน หรือประมาณ 141,000 บาท หากไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายฉบับใหม่อย่างเคร่งครัดได้

          ถ้าหากเป็นประชาชนจะถูกปรับสูงสุดถึง 300,000 เยน หรือประมาณ 84,000 บาท หากสูบบุหรี่ในพื้นที่ห้ามสูบและเพิกเฉยต่อคำเตือนจากผู้ดูแลสถานที่  นอกจากนั้น เมื่อปี 2020 ญี่ปุ่นได้ออกกฎหมายเพิ่มเรื่องการห้ามสูบบุหรี่ภายในร้านอาหารและร้านค้า มีผลเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2020

…

#ญี่ปุ่น

#สูบบุหรี่