สถานการณ์ราคาน้ำในในตลาดโลก ปิดตลาด เมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.66) ลดลง
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนก.ย.66 ลดลง 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนต.ค.66 ลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 86.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวในตลาดน้ำมัน
-การลดกำลังผลิตของซาอุดิอาระเบียๆ ขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน ไปจนถึงสิ้นเดือนส.ค.66 และประกาศขึ้นราคาน้ำมันดิบที่ส่งมายังคู่ค้าในเอเชียอีกด้วย
-ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน มีผลต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย ก่อนหน้านี้ รัสเซีย ลดการส่งออกน้ำมันกว่า 500,000 บาร์เรล/วัน ตั้งแต่เดือนก.ค.66 จนถึงสิ้นปี จะทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาด ลดลงกว่าร้อยละ 1.5
-ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนไม่ดี ทำให้เกิดความกังวลในการใช้พลังงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือน ก.ค.66 ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวลง 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. 64 ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ลดลง 4.4% ในเดือนก.ค.66 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 4.1% ข้อมูลดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเงินฝืด และส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลว่าความต้องการใช้น้ำมันในจีนชะลอตัวลงด้วย
-ข้อพิพาทด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯและจีน สหรัฐฯ ยังห้ามการลงทุนบางอย่างในภาคเทคโนโลยีที่อ่อนไหวของจีน เช่น ชิปคอมพิวเตอร์ รวมทั้งกำหนดให้นักลงทุนสหรัฐฯ แจ้งรัฐบาลสำหรับการลงทุนในเทคโนโลยีอื่นๆด้วย
-ทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
-สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนก.ค. 66 เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.3% ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ แสดงความยินดี หลังสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เงินเฟ้อลดลงราว 2 ใน 3 นับตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว ขณะที่ยังคงรักษาความแข็งแกร่งของเศษฐกิจ โดยอัตราการว่างงานยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 50 ปี
#น้ำมันโลก
แฟ้มภาพ