เหตุคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองร้านออโรร่า สาขาบิ๊กซี ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ ได้ทองคำ 48 บาท และเงินสด 200,000 บาท รวม 1.9 ล้านบาท ล่าสุด เมื่อพนักงานสอบสวน สน.สายไหม นำหลักฐานเดินทางไปขออนุมัติออกหมายจับต่อศาลอาญามีนบุรี เลขที่ 384/2566 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2566 ต่อ นายวินัย ขันอาษา อายุ 40 ปี ความผิดฐาน ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม
จากนั้น ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.2 พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม ได้ติดตามไปจับกุมตัวนายวินัย ผู้ต้องหาได้ย่านเอกมัย พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำและเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 แถลงผลจับกุม นายวินัย พร้อมของกลางทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 28 บาท เงินสดจำนวน 6,000 บาท ระเบิดปลอม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และชุดที่ใช้ในการก่อเหตุ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวได้ที่ใกล้สถานบริการอาบอบนวดแห่งหนึ่งย่านถนนเพชรบุรี แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.พล.ต.ต.อรรถพล เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุมีอาชีพรับทำกรอบประตูหน้าต่างกระจกอะลูมิเนียม มีครอบครัวภรรยา 1 คน ลูก 3 คน แต่ว่าติดการพนันออนไลน์เป็นเงินเกือบ 1 ล้านบาท จึงนำเงินมัดจำของลูกค้าไปใช้หนี้พนันจนเงินหมุนไม่ทัน เมื่อลูกค้าทวงถามจึงทำให้เกิดความกดดันจึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียว ใช้เจลแอลกอฮอล์ผสมทินเนอร์เข้าไปขู่พนักงานในร้านทองว่าจะเผาร้าน
หลังก่อเหตุหลบหนีโดยขับรถกระบะนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีเทา-ดำ ทะเบียน 2 ฒษ 9666 กรุงเทพมหานคร ขับรถวนไปในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ก่อนจะขับรถวนกลับมาหาเพื่อนที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ใกล้แฟลตตำรวจ สน.โคกคราม ซอยรามอินทรา 31 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เพื่อขออาศัยนอนค้าง 1 คืน
จากนั้นคนร้ายได้อาศัยจังหวะที่ตัวเองเข้าห้องน้ำ นำทองรูปพรรณของกลางบางส่วนที่ชิงทรัพย์ไปได้ ซุกซ่อนไว้ในวงกบประตูพลาสติกห้องน้ำ เช้าขึ้นมาเดินทางโดยรถแท็กซี่จะไปหาป้าย่านเอกมัย ทิ้งรถยนต์พาหนะก่อเหตุไว้ที่ลานจอดรถแฟลตตำรวจ สน.โคกคราม ก่อนจะถูกจับกุมได้ที่ย่านเอกมัย ขณะเอาเงินไปเที่ยวอาบอบนวด เมื่อตรวจค้นพบทองรูปพรรณของกลางอยู่ในกระเป๋าสะพาย และเงินสดของกลางอีกจำนวนหนึ่ง โดยนายวินัยอ้างว่าได้นำเงินสดของกลางไปโอนใช้หนี้ค่าวัสดุทำกระจกอะลูมิเนียมจำนวนกว่า 1 แสนบาท
ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุได้มีการวางแผนจะก่อเหตุถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ ครั้งแรกจะก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารแห่งหนึ่งย่านถนนรามอินทรา กม.4 โดยเตรียมระเบิดเวลาปลอมไว้ก่อเหตุ แต่ต้องเปลี่ยนใจล้มเลิกไป เพราะแม่โทรศัพท์มาหาพอดี ส่วนครั้งที่ 2 เตรียมก่อเหตุที่ร้านทองในห้างบิ๊กซี ย่านถนนสุขาภิบาล 5 เช่นกัน แต่ในขณะที่เตรียมก่อเหตุนั้น การจราจรติดขัดจึงตัดสินใจล้มเลิกไป จนกระทั่งมาก่อเหตุในครั้งนี้
#รวบโจรชิงทอง