ไฟป่าในโปรตุเกส-สเปน เร่งอพยพชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยง ผลกระทบจากคลื่นความร้อนระลอก 3

          สถานการณ์ไฟป่าในยุโรป เช่น โปรตุเกส ยังคงรุนแรง หลังเกิดคลื่นอากาศร้อนระลอกที่ 3 แผ่ปกคลุมทั่วทั้งคาบสมุทรไอบีเรียทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรปในระยะนี้ ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของยุโรป อากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงเป็นสถิติใหม่ เช่น เทศบาลซังตาไร โปรตุเกส อุณหภูมิสูง 46.4 องศาเซลเซียส เมื่อวันจันทร์ นับเป็นอุณหภูมิสูงที่สุดในปีนี้

          บีบีซีรายงานอ้างนายเฮลเดอร์ เกร์เรโร นายกเทศมนตรีเมืองโอเดมิรา ทางภาคใต้ของโปรตุเกสว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 800 คนเร่งทำการดับไฟป่าในเมืองโอเดมิราเมื่อคืนนี้ หลังเกิดไฟป่าตั้งแต่วันเสาร์ ยังคงคุมไฟป่าไม่อยู่ ผืนป่าถูกเผาเสียหายแล้วราว 41,875 ไร่ และมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 9 คนบาดเจ็บ ขณะเดียวกัน ทีมกู้ภัยโปรตุเกสส่งเครื่องบิน 16 ลำบรรทุกน้ำดับไฟป่า

          ส่วนท้องที่อื่นๆ เช่น ภาคกลาง ทางการโปรตุเกสสั่งปิดทางด่วนบางแห่ง เช่น ทางด่วน A1 ที่เชื่อมต่อระหว่างกรุงลิสบอนและเมืองปอร์โต เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟป่า พร้อมประกาศให้เทศบาลกว่า 120 แห่งทั่วประเทศ เป็นพื้นที่เฝ้าระวังเนื่องจากเสี่ยงอันตรายจากไฟป่า

          ทางการโปรตุเกสสั่งให้อพยพชาวบ้านจาก 19 หมู่บ้าน และอพยพนักท่องเที่ยวจากแหล่งท่องเที่ยว 5 แห่งในเมืองโอเดมิรา ไปยังสถานที่ปลอดภัย แต่ลมแรงเป็นอุปสรรคต่อการดับไฟป่า ไฟลุกไหม้ไปถึงเขตอัลการ์ฟ (Algarve)แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังทางภาคใต้ของโปรตุเกส

           ส่วนที่สเปน เจ้าหน้าที่ดับไฟสามารถควบคุมไฟป่าได้แล้ว หลังเกิดไฟป่า3 แห่งในเมืองกาดิซ,เมืองอูเอลบาในแถบชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้และอีกแห่งหนึ่งในแคว้นกาลาลุญญาทางภาคเหนือของประเทศตั้งแต่วันเสาร์ ผืนป่าเสียหายกว่า 6,250 ไร่ แต่เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาของสเปนยังคงเตือนประชาชนในทั่วทุกภาคของประเทศให้เฝ้าระวังไฟป่าทั่วประเทศ

          ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทำให้อากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงขึ้น เสี่ยงเกิดปัญหาไฟป่ากว่าในอดีต ที่ผ่านมา อุณหภูมิทั่วโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.1 องศาเซลเซียส นับแต่ยุคอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มที่อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากรัฐบาลของทุกประเทศทั่วโลกไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศของโลก

#ไฟป่าในยุโรป