วันนี้ เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต แจ้งความหาคนผิด ปล่อยคราบน้ำมัน คาดน่าจะเป็นน้ำมันเตาจากเรือใหญ่

           หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริเวณพื้นที่หาดไม้ขาว หาดในยาง หาดลายัน และหาดในทอน จังหวัดภูเก็ต พบคราบน้ำมันถูกคลื่นซัดขึ้นมาติดชายหาดตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันพฤหัสฯที่ 3 ส.ค.66  ซึ่งเป็นช่วงน้ำคลื่นแรง โดยกระจายอยู่ทั้ง 4 หาด ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและการลงเล่นน้ำของนักท่องเที่ยว

           นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ กล่าวว่า ทั้ง 4 หาด อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยหาดไม้ขาวพบคราบน้ำมันเป็นระยะทางประมาณ 5.42 กิโลเมตร หาดในยาง ระยะทางประมาณ 3.66 กิโลเมตร หาดลายัน ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร และหาดในทอน ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งมีมากบ้างน้อยบ้าง โดยจัดให้เจ้าหน้าที่ ลงไปจัดเก็บแต่ต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากมีปริมาณค่อนข้างมาก เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นน้ำมันเตาที่ถูกเรือขนาดใหญ่ปล่อยลงทะเลและถูกคลื่นซัดกลับมายังชายฝั่ง ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงมรสุม แจ้งเตือนนักท่องเที่ยว งดลงเล่นน้ำทะเลในระยะนี้จนกว่าจะเก็บกวาดคราบน้ำมันและเศษขยะที่เปื้อนคราบน้ำมันออกจากชายหาดทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน

           ล่าสุด นายอดูลย์ ระลึกมูล เจ้าพนักงานตรวจเรือชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวว่า นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้มอบหมายให้เป็นหัวหน้าชุดลงพื้นที่ตรวจสอบและกำจัดสิ่งปฏิกูลซึ่งคาดว่าเกิดจากน้ำมันเตา บริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ หาดไม้ขาว หาดในยาง หาดในทอน และหาดลายัน ระยะทางยาวประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ต โดยเร่งจัดเก็บและเฝ้าระวังหากไม่มีมาเพิ่ม น่าจะจัดเก็บและทำความสะอาดเสร็จภายใน 1-2 วันนี้

            นอกจากนี้ ได้ร่วมกับ อุทยานแห่งชาติสิรินาถ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต และสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกันจัดทำบันทึกหลักฐานและพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสาคู ในวันนี้ (7 ส.ค.66)เพื่อสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี โดยเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 119 ทวิ "ห้ามมิให้ผู้ใดเท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใดๆ ให้น้ำมันและเคมีภัณฑ์หรือสิ่งใดๆ ลงในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ หรือทะเลสาบ อันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน หรือทะเลภายในน่านน้ำไทยอันอาจจะเป็นเหตุให้เกิดเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตหรือต่อสิ่งแวดล้อมหรือเป็นอันตรายต่อการเดินเรือในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบดังกล่าว ผู้ใดฝ่าฝืนโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องชดใช้เงินค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการแก้ไขสิ่งเป็นพิษหรือชดใช้ค่าเสียหายเหล่านั้นด้วย

         ทั้งนี้ ได้มีการตรวจสอบย้อนกลับเพื่อหาข้อมูลเรือที่เดินทางในเส้นทางฝั่งตะวันตกในช่วงเวลาที่ผ่านมาในระบบ VTS ของศูนย์ควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเลอันดามัน (CSCA) พร้อมกับทัพเรือภาคที่ 3 ได้นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจตรวจสอบค้นหาเรือตามแนวชายฝั่ง ซึ่งหน่วยงานที่กี่ยวข้องทั้งหมดบูรณาการเร่งค้นหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

#คราบน้ำมัน

CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ สวท.ภูเก็ต prd