สหรัฐเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณศาล-สภาคองเกรสในกรุงวอชิงตันฯ ก่อนทรัมป์ขึ้นศาล ข้อหาล้มผลเลือกตั้งปี 63

          บีบีซีรายงานว่า นายทอม แมนเจอร์ หัวหน้าตำรวจที่ดูแลความปลอดภัยในบริเวณที่ทำการสภาคองเกรสสหรัฐฯ(US Capitol Police)ในกรุงวอชิงตันดี.ซี. เปิดเผยว่า ตำรวจสหรัฐฯได้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยในบริเวณโดยรอบของที่ทำการศาลและสภาคองเกรส ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน เช่น นำรั้วเหล็กมากั้นในบริเวณโดยรอบบริเวณ ก่อนที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯไปขึ้นศาลนัดแรกในเวลา 16.00น.ของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น (หรือราว 03.00น.ของวันที่ 4 สิงหาคม 2566 ตามเวลาของประเทศไทย) เพื่อรับทราบข้อหาในคดีล้มผลการเลือกตั้งปี 2563 นอกจากนี้ ตำรวจได้จัดกำลังตำรวจไว้ดูแลความปลอดภัยสำหรับผู้พิพากษา รวมถึง นางทันยา ฉัตกาน หัวหน้าคณะผู้พิพากษาที่ดูแลคดีนี้

          โฆษกตำรวจที่ดูแลความปลอดภัยของที่ทำการศาลของสหรัฐฯ(US Marshals Service) กล่าวถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลว่า เจ้าหน้าที่จะพิมพ์ลายนิ้วมือของนายทรัมป์ พร้อมขอทราบข้อมูลหลักๆ เช่น วันเดือนปีเกิดและหมายเลขบัตรประกันสังคม เป็นต้น ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของศาล

         เริ่มต้นด้วยการที่ผู้พิพากษาอ่านข้อหาให้นายทรัมป์ทราบ ตามคำฟ้องของพนักงานอัยการมี 4 ข้อหา คือ สมคบคิดฉ้อโกงรัฐบาลสหรัฐฯ, สมรู้ร่วมคิดเพื่อขัดขวางการพิจารณาคดีของเจ้าพนักงาน,การขัดขวางและพยายามขัดขวางการดำเนินกระบวนพิจารณาของเจ้าพนักงาน และ สมรู้ร่วมคิดเพื่อละเมิดสิทธิ์ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งทนายความของนายทรัมป์ เปิดเผยว่า นายทรัมป์จะให้การปฏิเสธทั้ง 4 ข้อหา

         นายจอห์น เลาโร ทนายความของนายทรัมป์ เปิดเผยแนวทางการสู้คดีของนายทรัมป์ว่า นายทรัมป์มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯฉบับแก้ไขครั้งที่ 1 ให้การคุ้มครองไว้

         หน่วยตำรวจลับ (Secret Service) ซึ่งทำหน้าที่อารักขาความปลอดภัยสำหรับประธานาธิบดีและอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯระบุในแถลงการณ์ เตือนประชาชนเรื่องผลกระทบด้านการจราจรในย่านใจกลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ในช่วงที่นายทรัมป์ไปขึ้นศาลในวันนี้

          ก่อนหน้านี้ มีผู้ไม่หวังดีโทรศัพท์มาหลอกหลวง ทางสายด่วน 911 เมื่อวานนี้ ว่า เกิดเหตุยิงกันในอาคารสภาคองเกรส ทำให้มีการล็อกดาวน์อาคารสำนักงาน 3 แห่งของวุฒิสภาและมีการส่งตำรวจเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ทุกแห่งโดยละเอียด ปรากฏว่า ไม่เป็นความจริง

#ทรัมป์ขึ้นศาลนัดแรก