สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า คณะลูกขุนใหญ่ของรัฐบาลกลางที่สอบสวนความพยายามแทรกแซงล้มการเลือกตั้งเมื่อปี 2563 ฟ้องนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (1 ส.ค.66) จากความพยายามคว่ำผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2563 จนนำไปสู่เรื่องที่กลุ่มผู้สนับสนุนบุกเข้าไปภายในสภาคองเกรส เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2564 ขัดขวางไม่ให้นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ขึ้นเป็นผู้นำ
นายทรัมป์ ถูกตั้งข้อหา 4 กระทง ข้อหาสมรู้ร่วมคิด 3 กระทง และ ขัดขวาง 1 กระทง ได้แก่ สมคบคิดฉ้อโกงรัฐบาลสหรัฐฯ, สมรู้ร่วมคิดเพื่อขัดขวางการพิจารณาคดีของเจ้าพนักงาน,การขัดขวางและพยายามขัดขวางการดำเนินกระบวนพิจารณาของเจ้าพนักงาน และ สมรู้ร่วมคิดเพื่อละเมิดสิทธิ เป็นการพิจารณาตามการยื่นเอกสาร 45 หน้าของนายแจ็ค สมิธ ทนายความพิเศษ นายทรัมป์ มีกำหนดที่จะขึ้นศาลของรัฐบาลกลางที่วอชิงตัน ดี.ซี. เวลา 16.00 น. วันพฤหัสบดี(3 ส.ค.66)
คำฟ้อง ระบุว่า นายทรัมป์ ซึ่งเป็นจำเลย รู้ว่าแพ้การเลือกตั้งให้นายไบเดน แต่ยังมุ่งมั่นที่จะอยู่ในอำนาจ ด้วยการเผยแพร่คำโกหกว่ามีการโกงผลการเลือกตั้ง และผลการเลือกตั้งที่แท้จริงเขาเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งข้ออ้างเหล่านี้ล้วนเป็นเท็จ และจำเลยก็ทราบว่าเป็นเรื่องเท็จ แต่จำเลยยังคงกล่าวซ้ำและเผยแพร่ เพื่อให้ดูเหมือนว่าข้ออ้างเหล่านั้นเป็นความจริง คำฟ้องกล่าวถึงผู้สมรู้ร่วมคิด 6 คน แต่ไม่มีใครระบุได้ และนายทรัมป์ เป็นจำเลยเพียงคนเดียวที่ถูกระบุชื่อ
นายสมิธ ได้ยื่นฟ้อง นายทรัมป์ ในข้อหาจัดการเอกสารลับของรัฐบาลโดยมิชอบ และนายทรัมป์ ยังถูกพิจารณาคดีในนิวยอร์กด้วยข้อหาจ่ายเงินให้ดาราหนังผู้ใหญ่เพื่อไม่ให้เปิดเผยข้อมูลด้านลบ
ทีมหาเสียงของนายทรัมป์ ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า การสั่งฟ้องครั้งนี้เป็นความพยายามของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยใช้กระทรวงยุติธรรมเป็นอาวุธ เพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังมีคะแนนนำอยู่
#ทรัมป์
#แทรกแซงเลือกตั้ง
แฟ้มภาพ
CR:CNN