ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง (Central Military Commission) หรือ CMC มีคำสั่งให้พลเอกหวัง หูปิ่น อดีตรองผู้บัญชาการกองทัพเรือ เป็นผู้บัญชาการกองกำลังจรวด (Rocket Force) คนใหม่ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ซึ่งดูแลเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ และให้พลเอกซวี่ สีเชิง สมาชิกในคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ เป็นรองผู้บัญชาการคนใหม่ แทนผู้นำชุดเดิมคือ พลเอกหลี่ หยูเจ้า อดีตผู้บัญชาการกองกำลังจรวด พร้อมพลเอกหลิว กวงบิน อดีตรองผู้บัญชาการ ซึ่งถูกสอบสวนฐานทุจริตและไม่ปรากฎตัวต่อสาธารณชนในจีนมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน
สื่อของทางการจีนไม่ได้รายงานเรื่องสถานที่อยู่ในปัจจุบันของพลเอกหลี่ และพลเอกหลิว แต่แหล่งข่าวเปิดเผยกับหนังสือเซาท์ไชนามอร์นิ่งโพสต์ของฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า คณะกรรมการปราบปรามทุจริตของกองทัพจีนเริ่มสอบสวนพลเอกหลี่ พลเอกหลิว และพลเอกจาง เจิ้งหง อดีตรองผู้บัญชาการอีกคนของพลเอกหลี่
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ เช่น นายไลอาล เจ.มอร์สิน นักวิเคราะห์นโยบายการต่างประเทศและความมั่นคงแห่งชาติจากสถาบันนโยบายสังคมเอเชีย(Asia Society Policy Institute) เอ็นจีโอชั้นนำของสหรัฐฯ มองเรื่องนี้ว่า เป็นการล้างบางผู้นำกองทัพจีน ก่อนครบวันก่อตั้งกองทัพจีนครบ 96 ปีในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ อีกทั้งเป็นการโยกย้ายผู้นำระดับสูงในกองทัพจีนในลักษณะผิดปกติครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี
นายมอร์ริส ระบุว่า การเปลี่ยนโยกย้ายผู้นำกองทัพจีนมีขึ้น หลังประเทศจีนดำเนินการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ด้านอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี ระบุว่า ผู้นำจีนหวั่นเกรงเรื่องปัญหาการทุจริตในกองทัพ พร้อมทั้งพูดเป็นนัยว่า การปลูกฝังอุดมการณ์เรื่องการให้ผู้นำกองทัพมีความภักดีสูงสุดต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังไม่บรรลุเป้าหมายเท่าที่ควร
สื่อของทางการจีน รายงานว่า ในการประชุมปลายเดือนที่แล้ว นายสีย้ำถึงความจำเป็นที่จะเน้นแก้ไขปัญหาต่างๆที่ผู้นำองค์ของพรรคในทุกระดับประสบอยู่ในปัจจุบัน และให้ทุกฝ่ายยึดถือนโยบายการให้ผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ มีอำนาจควบคุมกิจการในกองทัพ
#แต่งตั้งผู้นำกองทัพจีน