ผู้นำยูเครนยอมรับ เริ่มใช้โดรนเข้าโจมตีรัสเซีย ชี้เป็นเรื่องธรรมดาของสงคราม

          หลังกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียยิงสกัดโดรน 3 ลำจากยูเครน เมื่อวานนี้ ขณะโจมตีกรุงมอสโก สะเก็ดโดรนร่วงลงยังอาคารสำนักงาน กระจกหน้าต่างและบริเวณด้านหน้าของอาคารแตกเสียหาย พร้อมสั่งปิดสนามบินนูโคโว(Vnukovo)ในกรุงมอสโกเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อความปลอดภัยสำหรับการบินพลเรือน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ระหว่างการเยือนเมืองอีวานอ-ฟรันกิฟสก์ (Ivano-Frankivsk)ทางภาคตะวันตกของยูเครนว่า ยูเครนจะใช้วิธีส่งโดรนบุกเข้าโจมตีในอาณาเขตของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง เพื่อโจมตีย่านใจกลางเมือง เช่น สถานที่ที่สัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองและค่ายทหารต่างๆในรัสเซีย

          นายเซเลนสกี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่พ้น อีกทั้งเป็นปกติธรรมดาและเป็นธรรมสำหรับคู่กรณีที่สู้รบกันเช่น ยูเครนกับรัสเซีย พร้อมกล่าวถึงกองทัพยูเครนเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ ระบุว่า มาถึงวันนี้ สงครามในยูเครนเข้าสู่วันที่ 522 วัน ซึ่งในตอนแรก รัฐบาลรัสเซีย คาดว่า สงครามในยูเครนจะสิ้นสุด และจะสามารถยึดครองยูเครนในระยะเวลาเพียง 2-3 สัปดาห์ นับตั้งแต่เริ่มบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

         นักวิเคราะห์ มองว่า ผู้นำยูเครน อาจจะใช้โอกาสนี้ สื่อสารถึงชาวรัสเซียส่วนใหญ่ ซึ่งยังเชื่อคำชี้แจงจากรัฐบาลรัสเซียว่า การบุกยูเครนของรัสเซียเป็นเรื่องที่ถูกต้องและชอบธรรม โดยผู้นำยูเครน ย้ำเรื่องการส่งโดรนเข้ามาโจมตีรัสเซียว่า สงครามในยูเครนเริ่มย้อนกลับมากระทบความปลอดภัยของประชาชนในรัสเซียมากขึ้นเรื่อยๆ

          ก่อนหน้านี้ อดีตประธานาธิบดีดมิตรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย ซึ่งเป็นปัจจุบัน เป็นรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติของรัสเซียได้โพสต์ข้อความทางสื่อออนไลน์เมื่อวานนี้ว่า รัสเซียอาจจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ ถ้าการโต้กลับของยูเครนที่ดำเนินการอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน ประสบผลสำเร็จ ระบุว่า ไม่มีทางเลือกอื่นสำหรับรัสเซีย ถ้าหากยูเครนยึดคืนดินแดน(ในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของยูเครน) ซึ่งนายเมดเวเดฟ ใช้คำว่า ดินแดนของพวกเขา

#สถานการณ์ยูเครน