อียู-สหรัฐฯระงับ ความช่วยเหลือไนเจอร์ หลังรัฐประหาร

          บีบีซี รายงานอ้างนายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู)ว่า กลุ่มอียูตัดสินใจระงับความร่วมมือด้านความมั่นคงทั้งหมดและความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับประเทศไนเจอร์ในแอฟริกาตะวันตก หลังพลเอกอับดุลราห์มาน ทะเชียอานี หัวหน้าหน่วยอารักขาประธานาธิบดีทำรัฐประหาร ยึดอำนาจจากประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด บาซูมของไนเจอร์ พร้อมประกาศตัวเป็นผู้นำคนใหม่ของไนเจอร์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว พร้อมระบุว่าปัญหาภาวะไร้ความมั่นคง ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาคอรัปชั่นคือ ต้นเหตุให้เขาเข้ามายึดอำนาจจากรัฐบาล

          คำแถลงของนายบอร์เรลล์มีขึ้นไม่นานหลังจากสหรัฐฯและฝรั่งเศสประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า สหรัฐฯและฝรั่งเศสจะยังคงให้การสนับสนุนแก่รัฐบาลประธานาธิบดีบาซูม ต่อไป หลายฝ่ายมองว่า รัฐบาลของนายบาซูมเป็นพันธมิตรสำคัญของชาติตะวันตกในการปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงในทวีปแอฟริกา

          ก่อนหน้านี้ ฝรั่งเศส อดีตเจ้าอาณานิคมของไนเจอร์ ซึ่งย้ายฐานทัพจากมาลีเข้ามาตั้งในประเทศไนเจอร์ หลังถูกกระแสกดดันให้ย้ายฐานทัพออกจากมาลี ระบุเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า ฝรั่งเศสจะระงับโครงการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาทั้งหมด รวมถึงการช่วยเหลือทางการเงิน หลังการทำรัฐประหาร

          นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเตือนกลุ่มทหารที่ทำรัฐประหาร ควบคุมนายบาซูม ผู้นำคนแรกของไนเจอร์ที่ชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 นับแต่ได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี 2503 ว่า สหรัฐฯอาจจะระงับเงินช่วยเหลือหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

          ขณะที่นายเยฟเกนี พริโกซิน ผู้บริหารองค์กรทหารรับจ้างแวกเนอร์(Wagner)ของรัสเซียโพสต์ทางเทเลแกรม กล่าวถึงการทำรัฐประหารของผู้นำทหารไนเจอร์ว่า เป็นชัยชนะของประชาชนในไนเจอร์ในการต่อสู้กับอดีตเจ้าอาณานิคม กล่าวหา เจ้าอาณานิคมพยายามจะบังคับให้ประชาชนในไนเจอร์ดำเนินชีวิตตามกฎกติกาต่างๆที่พวกเขากำหนดขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน

          ด้านสหภาพแอฟริกา ขอให้กองทัพไนเจอร์ กลับยังที่ตั้งของหน่วยทหารภายใน 15 วัน พร้อมทั้งขอให้คืนอำนาจให้กับรัฐบาลประธานาธิบดีบาซูม โดยเร็ว

#รัฐประหารในไนเจอร์