ประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด บาซูม ของไนเจอร์ ยังคงถูกควบคุมตัวที่ทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น และยังไม่ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้เข้ามารับหน้าที่ผู้นำประเทศ หลังเกิดเหตุรัฐประหารเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้า ซึ่งถูกประณามอย่างกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ
ขณะที่ประธานาธิบดีพาทริซ ตาลง ของเบนิน ซึ่งมีแผนจะทำหน้าที่คนกลางไกล่เกลี่ยในนามของกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก หรือ ECOWAS ต้องยกเลิกการเดินทางเนื่องจากมีการปิดพรมแดนไนเจอร์
หนังสือพิมพ์ L’Enqueteur ของไนเจอร์ รายงานว่า สาเหตุของการรัฐประหารเกิดขึ้นเพราะการที่ประธานาธิบดีบาซูมพยายามที่จะถอดถอนนายพลอับดูราฮามาเน ชีอานี ออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังอารักขาประธานาธิบดี แต่นายพลชีอานี ไม่ได้อยู่ร่วมกับกลุ่มที่ประกาศการรัฐประหารเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ทำให้จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการประกาศว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่
ส่วนสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ได้ระงับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในไนเจอร์แล้ว แต่ไม่ได้พูดชัดเจนว่ามีสาเหตุมาจากการรัฐประหารหรือไม่ นายอันโตนิอู กุแตเรส เลขาธิการยูเอ็น ได้เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนายบาซูมทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขก่อนหน้านี้ยูเอ็นระบุว่า มีชาวไนเจอร์มากกว่า 4 ล้านคนที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้สนับสนุนการก่อรัฐประหารในไนเจอร์ได้บุกเข้าไปรื้อค้นและทำลายสำนักงานใหญ่ของพรรครัฐบาลในกรุงนีอาเม เมืองหลวงของไนเจอร์ โดยมีการจุดไฟเผาและเผารถยนต์ด้านนอกอาคาร นอกจากนี้ยังมีคนกลุ่มเล็กๆ ที่ไปชุมนุมสนับสนุนการยึดอำนาจที่ด้านนอกรัฐสภาไนเจอร์อีกด้วย
ผู้สนับสนุนการรัฐประหาร กล่าวโทษพรรคการเมืองว่าทุจริตคอร์รัปชั่นและไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเพียงพอที่จะพัฒนาสถานการณ์ด้านความมั่นคง และยุติการก่อความไม่สงบของกลุ่มญิฮาดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน ต่อมาสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของรัฐได้อ่านแถลงการณ์จากกระทรวงกิจการภายใน ประณามการกระทำป่าเถื่อน และห้ามการเดินขบวนจนกว่าจะมีการประกาศเพิ่มเติม
ด้านฝรั่งเศส ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาณานิคมของไนเจอร์ และ (ECOWAS) ออกมาเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนายบาซูมทันที และกลับไปสู่การปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ก็เรียกร้องให้มีการฟื้นคืนการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ด้านนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศความร่วมมือระหว่างสหรัฐกับรัฐบาลไนเจอร์นั้น ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องต่อมาตรฐานด้านประชาธิปไตย
โฆษกของคณะผู้แทนถาวรสหรัฐประจำสหประชาชาติ บอกด้วยว่า สหรัฐสนับสนุนการดำเนินการของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อลดโอกาสที่สถานการณ์ในไนเจอร์จะบานปลาย
สำนักข่าว RIA ของรัสเซียรายงานว่า นายมุสซา ฟากี มะหะหมัด ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพแอฟริกา (เอยู) กล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับนายบาซูมเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งประธานาธิบดีบอกว่าเขาสบายดี ทั้งนี้ ยังมีผู้แทนระหว่างประเทศอีกหลายคนที่บอกว่าพวกเขาได้พูดกับนายบาซูม ซึ่งรวมถึงนายโจเซฟ บอร์เรล รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรป ขณะที่ นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้โทรศัพท์พูดคุยและยืนยันว่า สหรัฐจะให้การสนับสนุนนายบาซูมอย่างไม่เปลี่ยนแปลง
#ยึดอำนาจไนเจอร์