*เร่งช่วยผู้ประสบภัยเนปาล/นรม.ญี่ปุ่นกล่าวสุนทรพจน์ต่อคองเกรส/จีนลดภาษีนำเข้า/เยอรมนีตำหนิรัฐบาลกรีซ *

ความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เนปาล ซึ่งพบศพผู้เสียชีวิตมากกว่า 5,000 ศพแล้วและจำนวนผู้บาดเจ็บอีกนับหมื่นคน แต่รัฐบาลยังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม โอกาสจะพบผู้รอดชีวิตใต้ซากความเสียหายจะเริ่มลดลงหลังจากผ่านพ้นมากว่า 5 วัน

มีผู้ประสบภัยประมาณ 200 คน ร่วมชุมนุมเนื่องจากพวกเขายังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ และเกิดสถานการณ์ขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มอย่างหนัก ทั้งยังพักอยู่ในที่พักชั่วคราวมาเป็นเวลาหลายคืนแล้ว และหลายคนเริ่มป่วยเป็นโรคปอดบวม

ส่วนผู้ประสบภัยในหมู่บ้านห่างไกลหลายแห่งได้รับความช่วยเหลือ เมื่อเฮลิคอปเตอร์จากหลายประเทศลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปในพื้นที่  แต่ประกาศว่า ไม่ต้องการทีมกู้ภัยจากต่างชาติเพื่อค้นหาผู้สูญหาย โดยยืนยันว่ารัฐบาลและกองทัพสามารถรับมือสถานการณ์ได้ และร้านค้าหลายแห่งในเมืองหลวงเริ่มกลับมาเปิดตามปกติ

ตำรวจสหรัฐอเมริกาในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ควบคุมเหตุจลาจลในเมืองได้แล้ว หลังจากเกิดความวุ่นวายตั้งแต่คืนวันจันทร์ที่บานปลายมาจากการประท้วงตำรวจ กรณีนายเฟรดดี เกรย์ ชายผิวสีที่เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว

นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสภาคองเกรสของสหรัฐ หลังเสร็จสิ้นการหารือกับประธานาธิบดีบารัก โอมาบา ผู้นำสหรัฐ ในช่วงที่สองประเทศเผชิญอิทธิพลของจีนทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภาคองเกรสบางส่วน ตลอดจนจีนและเกาหลีใต้ต่างไม่พอใจสุนทรพจน์ส่วนหนึ่งของผู้นำญี่ปุ่นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทั้ง 2 ประเทศมีกจะเรียกร้องให้ญี่ปุ่นกล่าวคำขอโทษอยู่บ่อยครั้ง และไม่พอใจการเดินทางเยือนอนุสรณ์สถานของทหารญี่ปุ่น ซึ่งผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า เขาเสียใจ แต่สิ่งเกิดขึ้นไปแล้วไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขได้

ด้านทีมสำรวจร่วมของรัสเซียและจีนพบร่างทหารโซเวียตที่เสียชีวิตระหว่างต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ประเทศจีน ระหว่างการเตรียมรำลึกครบรอบ 70 ปี แห่งการสิ้นสุดสงคราม หลังทีมสำรวจตั้งเป้าค้นหาร่างของทหารโซเวียตจำนวน 413 ราย

และจากการที่อินโดนีเซียประหารชีวิตนักโทษคดียาเสพติดด้วยวิธียิงเป้าจำนวน 8 คนซึ่งเป็นชาวต่างชาติ 7 คน คือออสเตรเลีย บราซิล ไนจีเรีย และกานา ส่วนนักโทษหญิงชาวฟิลิปปินส์คือนางแมรี เจน เฟียสตา เบโลโซ รอดพ้นในนาทีสุดท้าย ซึ่งทำให้ทั้งออสเตรเลีย และ บราซิลที่มีพลเมืองของตนถูกประหารชีวิตนั้นไม่พอใจ แต่กระทรวงยุติธรรมอินโดนีเซีย ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงการที่ออสเตรเลียเรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศเพื่อแสดงท่าทีคัดค้านการประหารชีวิต โดยรัฐมนตรียุติธรรมอินโดนีเซีย กล่าวว่า เป็นการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามยาเสพติด และอินโดนีเซียไม่ได้เป็นศัตรูกับประเทศที่พลเมืองถูกประหาร

สวนนักโทษหญิงฟิลิปปินส์ รอดพ้นจากการถูกประหารในนาทีสุดท้าย เพราะมีผู้ต้องหาเข้ามอบตัวกับตำรวจฟิลิปปินส์ โดยรับสารภาพว่าเป็นผู้จ้างวานให้นางนำยาเสพติดเข้าอินโดนีเซีย

สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ สั่งประหารชีวิตคนถึง 15 คนในปีนี้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูง จากความผิดฐานท้าทายอำนาจผู้นำ

จีนจะลดภาษีนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคบางอย่างภายในปลายเดือนมิถุนายน เพื่อช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศและเศรษฐกิจ แต่ทางสภาแห่งชาติยังไม่ได้ประกาศรายชื่อสินค้า ซึ่งปกติแล้วผู้บริโภคในจีนซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยในราคาที่สูงกว่าในยุโรปร้อยละ 20

นายเจนส์ วีดแมน ประธานบุนเดสแบงก์หรือธนาคารกลางเยอรมนี วิจารณ์รัฐบาลกรีซที่ไม่ยอมดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจ ที่อาจะทำให้ต้องล้มละลาย และชาติสมาชิกต้องเข้ามารับผิดชอบผลจากการตัดสินใจทางการเมือง แต่ภาพรวมของระบบการเงินยุโรป จะไม่ล้มตามไปด้วย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอเลกซิส ซิปรัสแห่งกรีซ กล่าวแสดงความมั่นใจว่าจะบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากปรับทีมเจรจาและลดบทบาทรัฐมนตรีคลัง อย่างไรก็ตามกรีซอาจต้องจัดการลงประชามติ หากเจ้าหนี้เรียกร้องให้รัฐบาลกรีซ ทำในสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.52 ดอลลาร์ ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 58.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ รายงานว่าคลังเชื้อเพลิงสำรองรายสัปดาห์ ที่เมืองคุชชิง โอคลาโฮมา ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ราว 5 แสนบาร์เรล เหลือ 61 ล้านบาร์เรล ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กำลังผลิตที่ลดลง

          ส่วนดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 74.61 จุด หรือร้อยละ 0.41  ปิดที่ 18,035.53 จุด

เอสแอนด์พี ลดลง 7.91 จุด หรือร้อยละ 0.37 ปิดที่ 2,106.85 จุด

แนสแดค ลดลง 31.78 จุด หรือร้อยละ 0.63 ปิดที่ 5,023.64 จุด

          ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯยังเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.9 ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เทียบกับที่พุ่งขึ้นร้อยละ 4.4 ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว

       *-*