หลังจากที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติจีน มีมติให้ปลดนายฉิน กัง จากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ หลังเข้ารับตำแหน่งไม่ถึง 7 เดือน พร้อมแต่งตั้งนายหวัง อี้ หัวหน้าคณะผู้กำหนดนโยบายการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน
CNA รายงานว่า ภารกิจแรกของนายหวัง อี้ คือการเดินทางเยือนตุรกี พบหารือกับนายฮาคาน ฟิดาน รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี ในกรุงอังการา และเข้าพบประธานาธิบดีเทยิป แอร์โดอัน ในวันพุธ (26 ก.ค.66) ตามเวลาท้องถิ่น เป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้ง
รายงานข่าวจากกระทรวงต่างประเทศตุรกี ระบุว่า นายหวัง อี้ และนายฮาคาน ฟิดาน หารือสถานการณ์ล่าสุดในยูเครน หลังจาก รัสเซียได้แจ้งต่อรัฐบาลตุรกี ยูเครนและสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เพื่อทราบอย่างเป็นทางการแล้วว่า รัสเซียจะไม่ต่ออายุของข้อตกลงให้ยูเครนส่งสินค้าเกษตรทางเรือผ่านทะเลดำไปตลาดโลก
ก่อนหน้านี้ รัสเซียและยูเครนลงนามในข้อตกลงฉบับนี้เป็นครั้งแรก เมื่อเดือนก.ค.65 โดยมีสหประชาชาติและตุรกีทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย รายงานจากกระทรวงการต่างประเทศตุรกี ระบุว่า ทั้งคู่ยังได้หารือเรื่องระบบการเงินโลก พัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าด้วย
นักการทูตระดับสูงทั้งสองหารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์ของชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยมุสลิมส่วนใหญ่ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกของจีน กลุ่มสิทธิมนุษยชน กล่าวหา จีนละเมิดต่อชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงอุยกูร์ รวมถึงการบังคับใช้แรงงานจำนวนมากในค่ายกักกัน ขณะที่ จีน ปฏิเสธข้อกล่าวหา
สหรัฐฯและหลายประเทศในยุโรป เรียกร้องให้จีนใช้อิทธิพลที่มีเหนือรัสเซีย เพื่อหาทางยุติสงครามในยูเครน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จีนเผยแพร่แผนสันติภาพ 12 ข้อ โดยเรียกร้องให้มีการเคารพการคุ้มครองพลเรือนและอำนาจอธิปไตยของทุกประเทศ
ส่วนการพูดคุยระหว่างนายหวัง อี้ กับ ประธานาธิบดีตุรกี สำนักงานของประธานาธิบดีแอร์โดอัน กล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่หลังการประชุมว่า ประธานาธิบดีตุรกี แสดงความหวังว่า ทั้งตุรกีและจีน จะกระชับความร่วมมือระหว่างกัน เนื่องจากทั้งสองประเทศมีบทบาทสำคัญในประเด็นระดับโลกและระดับภูมิภาค รวมถึง การประสานความคิดริเริ่มของ Belt and Road และ Middle Corridor (ของจีน) ตลอดจนพลังงานนิวเคลียร์ เกษตรกรรม และการบินพลเรือน
โครงการแถบและเส้นทาง หรือ Belt and Road Initiative (BRI) คือยุทธศาสตร์การพัฒนาระดับโลกที่รัฐบาลจีนเชิญชวนในรัฐบาลประเทศต่างๆ ทั่วโลกร่วมมือกันในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นที่และการลงทุน ครอบคลุม 68 ประเทศทั่วโลก ประชากร 65% ทั่วโลก หรือมีมูลค่าคิดเป็น 40% ของจีดีพีทั่วโลกในปี 2017
#จีนหารือตุรกี
#ยูเครน
CR:CNA,Reuters
ข่าวทั้งหมด