พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 10/2558 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เพื่อให้สามารถเร่งดำเนินการแก้ปัญหาให้การทำการประมง สามารถดำเนินการได้อย่างยั่งยืนและเป็นระบบ และยกระดับมาตราฐานการประมงของประเทศไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล รวมทั้งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการประมง อุตสาหกรรมต่อเนื่อง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หากมิได้มีการป้องกันและแก้ไขโดยเร่งด่วน จะมีผลกระทบต่อความมั่นคง ทางเศรษฐกิจของประเทศได้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย เรียกโดยย่อว่า ศปมผ. เป็นศูนย์เฉพาะกิจ ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้บัญชาการทหารเรือเป็นผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ผบ.ศปมผ.) ทั้งนี้ ให้ ศปมผ. เริ่มปฏิบัติการตามคำสั่งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2558 ศปมผ. มีโครงสร้างการปฏิบัติการดังต่อไปนี้ ให้คณะกรรมการนโยบายแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 52/2558 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558 ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติในระดับรัฐบาล โดยให้ศูนย์ดังกล่าวกำหนดแนวทางการแก้ปัญหา รวมถึงดำเนินงานทำความเข้าใจกับสหภาพยุโรป ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาเสนอแนะ ปรับปรุง แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งพัฒนากฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายให้เป็นมาตรฐานสากล และให้รายงานผลการปฏิบัติให้หัวหน้าคสช.ทราบอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสหภาพยุโรปได้ยกเลิกประกาศเตือนประเทศไทย ให้ผู้ประกอบการเรือประมง ที่มีขนาดตั้งแต่ 30 ตันกรอสส์ขึ้นไป หรือตามขนาดที่ ศปมผ. ประกาศกำหนด ต้องดำเนินการ จัดทำสมุดบันทึกการทำประมง ติดตั้งระบบติดตามเรือประมง ห้ามเรือประมงออกไปทำการประมงในน่านน้ำของรัฐต่างประเทศ และในทะเลหลวง เว้นแต่จะได้รับ อนุญาตจาก ศปมผ.
CR:แฟ้มภาพ