บุกค้น 2 จุด ปฎิบัติการล่าข้ามโลกราชาคริปโต เจอหลักฐานโยงฟอกเงิน ยึดทรัพย์กว่า 300 ล้าน

26 กรกฎาคม 2566, 11:32น.


           พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) สั่งการให้ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. นำกำลังเข้าตรวจค้น 2 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นการขยายผลจากปฏิบัติการ Trust No One ล่าข้ามโลกราชาคริปโต



-จุดแรก นำหมายค้นศาลอาญาเลขที่ ค.505/2566 ลงวันที่ 24 ก.ค.66 เข้าตรวจค้นบ้าน ในพื้นที่แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ซึ่งบ้านดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวสูง 3 ชั้น มูลค่า 45 ล้านบาท มีรั้วรอบขอบชิด มีแม่บ้านที่ดูแลบ้านดังกล่าวเป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้น พบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องในทางคดีจำนวนมาก อีกทั้งยังพบชุดลักษณะคล้ายเครื่องแบบทหารประดับเครื่องหมาย ระบุชื่อ สมปอง ซู อีกทั้งพบรูปถ่ายวันประดับเครื่องหมายผู้สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรผู้กำกับกำลังสำรอง รักษาดินแดนรุ่นที่ 34 พร้อมเกียรติบัตร ของสังกัดสมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทยอยู่ในห้องนอนดังกล่าว รวมทั้งหนังสือเดินทาง ระบุชื่อ นายซูเผิงเฟย สัญชาติจีน นอกจากนี้ในส่วนผู้ดูแลให้การยืนยันว่านายซูเผิงเฟย หรือนายสมปอง ซู เป็นเจ้าของบ้าน อีกทั้งเป็นบุคคลคนเดียวกัน ซึ่งหลังจากที่มีข่าวจับคนจีนได้เดินทางออกนอกประเทศไป  นอกจากนี้ ตรวจยึดรถยนต์ โตโยต้าอัลพาด สีขาว ทะเบียน กย 9xx กรุงเทพมหานคร , รถยนต์โตโยต้า รีโว่ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ถ 4xxx กรุงเทพมหานคร , โฉนดที่ดินอาคารชุดย่านอโศกพระราม 9 จำนวน 8 ห้องชุด , โฉนดที่ดิน 2 ฉบับ , ตู้เชฟ 1 ตู้ รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท จึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ



-จุดที่สอง นำหมายค้นศาลอาญาที่ ค.504/2566 ลงวันที่ 24 ก.ค.66 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ซอยกาญจนาภิเษก 12 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทแห่งหนึ่ง เบื้องต้น ไม่พบว่ามีผู้พักอาศัย หรือ ผู้ดูแลแต่จากการสอบถามข้อมูลจากฝ่ายสถานที่ของโครงการ บ้านหลังดังกล่าวมีผู้ซื้อไปจากโครงการเเล้ว เเต่ยังไม่มีผู้มาพักอาศัย ได้สอบถามฝ่ายขายของโครงการ ได้ข้อมูลว่า บ้านหลังดังกล่าว มีผู้ซื้อจากโครงการเมื่อประมาณเดือน พ.ย.-ธ.ค.65 ใช้ชื่อนิติบุคคลเป็นผู้ซื้อจากโครงการ



           พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลจากปฏิบัติการ Trust No One ล่าข้ามโลกราชาคริปโตฯ Ep:1 และ Ep:2 โดยครั้งนั้น บช.สอท.ได้เข้าตรวจค้น 6 จุด ในย่านศรีนครินทร์ และจับนายเซาเซียน ซู อายุ 31 ปี และนางคี ยิ ยี อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาวจีนตามหมายจับศาลอาญาที่ 1665-1666/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค.66 และนายคำเฮง จุลมนตรี สัญชาติลาว ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1654/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค.66 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน หลังก่อเหตุใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิทผู้เสียหายผ่านช่องทางโซเซียลมีเดียต่าง ๆ ก่อนจะชวนลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมสําหรับเทรดเงินสกุลดิจิทัล หรือสินทรัพย์ต่าง ๆ ในลักษณะหลอกลงทุนไฮบริดสแกรม ซึ่งมีผู้เสียหายในพื้นที่ สน.ศาลาแดง,สน.โชคชัย และสภ.บางสะพาน จ. ประจวบคีรีขันธ์ รวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่า มีความเชื่อมโยงกับนายซูเผิงเฟย หรือนายสมปอง ซู แนวทางสืบสวนเชื่อว่าน่าจะนำเงินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายมาเล่นแร่แปรธาตุ มาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของบริษัท ซึ่งจดทะเบียนวันที่ 26 ต.ค.65 ประเภทธุรกิจซื้อขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ และให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้วยทุนจดทะเบียน 49,500,000 บาท อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมกับออกหมายเรียกนายสมปอง ซู มาชี้แจงการได้มาซึ่งทรัพย์สิน หากไม่สามารถที่จะชี้แจงได้ก็จะเข้าข่ายในส่วนของความผิดฐาน ร่วมกันฟอกเงินหรือร่วมกันสนับสนุนฟอกเงิน และ นำทรัพย์สินที่ไม่สามารถชี้แจงได้หรือทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดดำเนินการขายทอดตลาด เพื่อมุ่งหวังคืนให้กลุ่มผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อน และจะขยายผลหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือ พยานหลักฐานเชื่อมโยงไปในส่วนใดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป



 



#ยึดทรัพย์ราชาคลิปโต



CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ ดาวแปดแฉก



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X