ชทพ.-พปชร. เตรียมหารือกับพรรคเพื่อไทย ถกหาทางออกของประเทศ ย้ำจุดยืนไม่แก้ไข ม.112

          นายวราวุธ ศิลปอาชา  รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา  เปิดเผยว่า ในวันนี้ (23 ก.ค.66) ตน พร้อมด้วยนายอนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรค, นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค, นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค และนายพาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา จะเดินทางไปที่พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตและทางออกของประเทศร่วมกัน โดยพรรคชาติไทยพัฒนาจะต้องรอพรรคเพื่อไทยก่อนว่า จะมีการพูดคุยเรื่องใดบ้าง  แต่ยังคงย้ำจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการแก้ไข หรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมือง ที่มีทัศนคติไม่ดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพราะถือเป็นหลักการพื้นฐานที่สำคัญของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่นอกจากพรรคจะพร้อมทำงานให้กับประชาชนแล้ว ยังจะทำงานเพื่อสถาบันหลักของชาติ 3 สถาบันด้วย

          ส่วนประเด็นการสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยนั้น นายวราวุธ ระบุว่า ต้องรอให้พรรคเพื่อไทยสรุปแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอต่อรัฐสภาก่อน  ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย  แต่พรรคเพื่อไทย จะต้องไม่มีการทำงานร่วมกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายเกี่ยวข้องกับการแก้ไข หรือยกเลิกมาตรา 112 หรือมีทัศนคติในแง่ลบกับสถาบันหลักของชาติ  แต่หากพรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันเช่นเดิม พรรคชาติไทยพัฒนาก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ต่างคนต่างทำงาน

          ขณะที่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ได้รับเทียบเชิญจากพรรคเพื่อไทย เพื่อพูดคุยแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤต และทางออกประเทศ  ในวันที่ 24 ก.ค.นี้  โดยตนพร้อมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานคณะกรรมการประสานงาน สส. , นายไผ่ ลิคก์ สส.กำแพงเพชร จะเป็นตัวแทนไปหารือ  ซึ่งในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ยังคงย้ำจุดยืนไม่มีแนวคิดทำลายความมั่นคงของประเทศ  รวมทั้งไม่สนับสนุนการยกเลิก หรือแก้ไข มาตรา 112 หากพรรคใดพรรคหนึ่งมีแนวนโยบายดังกล่าวก็ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้  เพราะพรรคพลังประชารัฐ เน้นย้ำ เรื่องความมั่นคง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นหัวใจสำคัญของประเทศ และต้องช่วยกันรักษาไว้ และย้ำว่า การพูดคุยในครั้งนี้เป็นการหาทางออกในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนแก้ปัญหาบ้านเมือง เพราะหากขาดรัฐบาลนานไป ประชาชนและนักลงทุนก็จะเกิดความกังวล  ซึ่งตามนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ดังนั้น อะไรที่จะเป็นการทำเพื่อบ้านเมือง ก็พร้อมจะพูดคุย  ซึ่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค รับทราบแล้ว  

          นายสันติ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยที่พรรคเพื่อไทย เลือกใช้วิธีส่งหนังสือเทียบเชิญ ไปยังขั้วรัฐบาลเดิม เพื่อร่วมกันหาทางออกประเทศ  เพราะทุกพรรคการเมืองต้องมองว่า การขาดรัฐบาลจะส่งผลให้การขับเคลื่อนนโยบายให้กับประชาชน  การมี ครม.รักษาการ  จะทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้มาก  และนักลงทุนย่อมจับตามองทิศทางเศรษฐกิจของประเทศไทย

          ส่วนกระแสข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ จะได้รับเทียบเชิญร่วมรัฐบาลด้วย  นายสันติ กล่าวว่า  เป็นเพียงกระแสข่าว ตอนนี้ยังไม่มีอะไร  สนใจแค่ประเทศจะได้รัฐบาลใหม่เมื่อไหร่ และเป็นรัฐบาลที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย ทำเพื่อพี่น้องประชาชน เกิดความมั่นคงในประเทศ

          ล่าสุด มีรายงานว่า ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ จะไปพบแกนนำพรรคเพื่อไทยในวันนี้เลย (23 ก.ค.)  โดยต่อคิวจากพรรคชาติไทยพัฒนา ในเวลา 16.00 น. เพื่อพูดคุยแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤต และทางออกประเทศ พร้อมย้ำจุดยืน ไม่มีแนวคิดทำลายความมั่นคงของประเทศ หรือการยกเลิก หรือแก้ไข มาตรา 112 หากพรรคใดพรรคหนึ่งมีแนวนโยบายดังกล่าวก็ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้

#จัดตั้งรัฐบาล

#พลังประชารัฐ

#ชาติไทยพัฒนา

#เพื่อไทย