จากแผ่นดินไหวรุนแรงที่ประเทศเนปาล สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนโบราณสถานหลายแห่ง โดยทางการเนปาลรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว มากกว่า 4,400 ศพและบาดเจ็บเกือบ 8,000 คน โดยพบผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บส่วนใหญ่อยู่ในเนปาล ส่วนเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย ธิเบต และบังกลาเทศ ก็มีรายงานความเสียหายเช่นกัน
นายกรัฐมนตรีสุชิล คอยราลา ของเนปาล คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจมากถึง 10,000 คน เพราะพื้นที่ชนบทยังไม่ได้รายงานความสูญเสียเข้ามาที่ส่วนกลาง และทางการกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาและบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาท้าทายและยุ่งยาก ไม่ต่างจากการเตรียมการทำสงครามเลยทีเดียว
นักธรณีวิทยาเตือนว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นต่อเนื่องอีกประมาณ 1 เดือน ด้านรายงานของสำนักงานประสานงานเพื่อผู้อยู่อาศัยของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยถึงตัวเลขประเมินเบื้องต้นของผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวว่ามีประมาณ 8 ล้านคน กระจายอยู่ใน 39 อำเภอ ในจำนวนนี้มีกว่า 2 ล้านคน อยู่ใน 11 อำเภอที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ทีมแพทย์และกู้ภัยจากอย่างน้อย 12 ประเทศ ร่วมกับทหารและตำรวจในพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ค้นหาและช่วยเหลือในกรุงกาฐมาณฑุและพื้นที่โดยรอบ ขณะที่กลุ่มสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก และเว็บสืบค้นข้อมูลอย่างกูเกิล ร่วมกับคณะกรรมการกาชาดสากลเปิดหน้าเพจตามค้นหาผู้สูญหายและการบริจาคช่วยเหลือ ส่วนบริษัทจัดหาภาพถ่ายดิจิตอลโกลบในสหรัฐฯ เปิดการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมของพื้นที่กว่า 14,000 ตารางกิโลเมตรทั่วเนปาล รวมทั้งภาพความเสียหายของอาคารและถนนหนทาง เพื่อช่วยทีมกู้ภัยที่ทำงานในพื้นที่ ซึ่งมีอาสาสมัครช่วยกันตรวจสอบมากกว่า 4,500 คน
ส่วนอินโดนีเซีย ประหารชีวิตนักโทษในคดียาเสพติดจำนวน 9 คนแล้ว ที่เรือนจำบนเกาะชวา จากที่เมื่อวานนี้ มีการแยกขังเดี่ยว และเมื่อคืนนี้ก็มีการประกาศประหารชีวิต ซึ่งทำให้ทางการออสเตรเลียประท้วงด้วยการเรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศในทันที เนื่องจากในกลุ่มนักโทษที่ถูกประหารชีวิตมีชาวออสเตรเลียอยู่ด้วย 2 คนและออสเตรเลียก็พยายามต่อรองมาโดยตลอดเพื่อให้อินโดนีเซียเว้นโทษประหารชีวิต
ส่วนสถานการณ์ที่เมืองบัลติมอร์มลรัฐแมรี่แลนด์ ซึ่งแม้จะมีการประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมเหตุจลาจล แต่ก็ยังเกิดเหตุรุนแรงขึ้น ทั้งการปล้นร้านค้า และวางเพลิงทำให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 15 นาย และมีผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัว 27 คน โดยเหตุการณ์เพิ่มความรุนแรงขึ้นหลังการไว้อาลัยให้แก่นายเฟรดดี เกรย์ ชายผิวสีที่เสียชีวิต เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง ขณะถูกตำรวจควบคุมตัว
ที่ไนจีเรีย กองทัพประกาศว่า สามารถช่วยเหลือเด็กหญิง 200 คน และสตรีอีก 93 คน ที่ถูกกลุ่มโบโก ฮาราม ลักพาตัวไป แต่เด็กหญิง และ สตรีกลุ่มนี้ไม่ใช่เด็กนักเรียนหญิงหลายร้อยคนที่ถูกลักพาตัวจากเมืองชีบ็อคเมื่อปีก่อน โดยทหารไนจีเรีย พบทั้งหมดในระหว่างการปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มโบโก ฮาราม ในค่าย 4 แห่งในป่า แซมบิซา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
ส่วนเรื่องเศรษฐกิจกรีซ นายกรัฐมนตรีอเลกซิส ซิปรัส ปรับทีมเจรจากับสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์มองว่า เป็นความพยายามลดบทบาทของนายยานิส วารูฟากิส รัฐมนตรีคลัง ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีแนวคิดต่อต้านมาตรการตัดลงงบประมาณรายจ่าย และยังไม่ประสบความสำเร็จในการเจรจากับเจ้าหนี้ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีกรีซ กล่าวยืนยันว่ายังให้การสนับสนุนการทำงานของนายวารูฟากิส และยังให้เขาเป็นผู้ดูแลทีมเจรจาอยู่เช่นเดิม แต่ในกลุ่มที่ปรับใหม่นี้ มีนายยูคลิด ซาคาโลโทส รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ และยังเป็นนักเศรษฐศาสตร์เช่นกัน มาทำหน้าที่ประสานกับเจ้าหนี้ ซึ่งสะท้อนว่านายกรัฐมนตรีกำลังพยายามลดความตึงเครียดในการเจรจาลง
นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐ และนายแอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหม พร้อมด้วยนายฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น และนายเกน นาคาตานิ รัฐมนตรีกลาโหม ร่วมแถลงกรอบความร่วมมือทางทหารฉบับใหม่ ที่จะเปิดทางให้ทหารญี่ปุ่นมีบทบาทนอกประเทศมากขึ้น สามารถยิงสกัดขีปนาวุธที่มุ่งโจมตีสหรัฐได้ หรือช่วยเหลือกองกำลังสหรัฐกรณีถูกคุกคามจากประเทศที่สาม
ด้านกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ แสดงความคาดหวังว่าสหรัฐกับญี่ปุ่นจะใช้แนวทางใหม่เพื่อส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
และจากเหตุภูเขาไฟกัลบูโกในชิลีที่ระเบิดขึ้น 2ครั้งในสัปดาห์ก่อน ทางสภาหอการค้าเมืองเปอร์โต วารัส รายงานว่า ภูมิภาคลอสลากอส ทางภาคใต้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและเกษตรกรรม ได้รับความเสียหายเป็นมูลค่าถึง 600 ล้านดอลลาร์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 72.17 จุด หรือร้อยละ 0.40 ปิดที่ 18,110.14 จุด
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 5.84 จุด หรือร้อยละ 0.28 ปิดที่ 2,114.76 จุด
ดัชนีแนสแด็กลดลง 4.83 จุด หรือร้อยละ 0.10 ปิดที่ 5,055.42 จุด
*-*