ก่อนที่เช้านี้ เกาหลีเหนือ จะยิงขีปนาวุธ มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือแย่ลงอีก กรณีเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธของสหรัฐฯ เดินทางถึงเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 และเมื่อวานนี้ ทหารสหรัฐฯนายหนึ่งได้เดินทางข้ามเส้นแบ่งเขตแดนเข้าสู่เกาหลีเหนือ สหรัฐฯ เชื่อว่า ทหารรายนี้ถูกเกาหลีเหนือจับกุมตัวไว้แล้ว ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ รุนแรงมากขึ้น
สำนักข่าวยอนฮับ รายงานว่า ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จัดการประชุมติดตามการรักษาความปลอดภัย โดย ลิม จอง-ดึก รองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม
คณะเสนาธิการร่วม (JCS) ตรวจพบการยิงจากพื้นที่ซูนันในกรุงเปียงยาง ระหว่างเวลา 03.30 น. ถึง 03.46 น. และเคลื่อนไปได้ไกลประมาณ 550 กิโลเมตร ก่อนที่จะตกในทะเล เป็นการกระทำที่เป็นการยั่วยุอย่างสำคัญ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสันติภาพไม่เพียงแต่ในคาบสมุทรเกาหลีเท่านั้นแต่รวมถึงประชาคมระหว่างประเทศด้วย และเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างชัดเจน ทางกองทัพเกาหลีใต้ เตรียมพร้อมในการตอบโต้
กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือ ได้ยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (ballistic missile) จำนวน 2 ลูกตกลงด้านนอกของเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของญี่ปุ่น
นายยาซูคาสึ ฮามาดะ รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ขีปนาวุธลูกแรกเคลื่อนตัวที่ระดับความสูง 50 กิโลเมตร และเคลื่อนตัวเป็นระยะทาง 550 กิโลเมตร ส่วนลูกที่สองเคลื่อนตัวที่ระดับความสูง 50 กิโลเมตรและเคลื่อนตัวเป็นระยะทาง 600 กิโลเมตร
กองทัพสหรัฐฯ กำลังปรึกษากับชาติพันธมิตรและหุ้นส่วนของสหรัฐฯเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว
กองบัญชาการฝ่ายกิจการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในครั้งนี้ ยังไม่พบว่าเป็นภัยคุกคามในทันทีต่อสหรัฐฯหรือชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ แต่สถานการณ์ดังกล่าวตอกย้ำถึงผลกระทบในทางลบของโครงการอาวุธที่ผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือ
#เกาหลีเหนือ
#สหรัฐฯ
แฟ้มภาพ
CR:Yonhap