จากสถานการณ์ฝนตกหนักสะสม ทำให้หลายพื้นที่ในจ.ระนอง มีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง สำนักงานประชาสัมพัน์จังหวัดระนอง เร่งให้ความช่วยเหลือและสรุปข้อมูล (เวลา 14.00 น.วันที่ 18 ก.ค.66)
1.พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและการให้ความช่วยเหลือ (เพิ่มเติม)
-อำเภอเมืองระนอง ฝนตกหนักต่อเนื่องและน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำลันตลิ่ง และดินเลื่อนไหล ได้แก่ ตำบลเขานิเวศน์ ตำบลบางริ้น ตำบลบางนอน ตำบลหงาว ตำบลหาดส้มแป้น และตำบลปากน้ำ
การให้ความช่วยเหลือ อำเภอเมืองระนอง/ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25/ หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 25/ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415/ ศูนย์ประสานงานประมงชายแดงทางทะเลไทย-เมียนมา/ สว.ส.รน.1 กก.8 บก.รน/ เทศบาลเมืองระนอง/ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้เร่งเข้าพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน
-อำเภอกะเปอร์ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง และลมกระโชกแรงทำให้ต้นไม้ล้มทับหลังคาบ้านเรือนประชาชน ระบบไฟฟ้า รวมถึงเส้นทางการคมนาคมเกิดความเสียหายในพื้นที่ 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลกะเปอร์ ตำบลบ้านนา ตำบลม่วงกลวง และตำบลบางหิน
การให้ความช่วยเหลืออำเภอกะเปอร์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนในพื้นที่ พร้อมด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เข้าไปช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว พร้อมประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือต่อไป
-อำเภอละอุ่น ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง และลมกระโชกแรงในพื้นที่ ม.5 บ้านพรุตาโรย ทำให้ต้นยางพารา ล้มทับบ้านพักแรงงานเมียนมา เสียหายทั้งหลัง มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 4 คน เป็นแรงงานเมียนมาทั้งหมด
การให้ความช่วยเหลืออำเภอละอุ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์การบริหารส่วนตำบลบางแก้ว ช่วยเหลือในเบื้องต้นและนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
สถานีวิทยุจส.100 ตรวจสอบสถานการณ์กับคุณสำเนียง มณีรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง รายงานว่า
ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เป็นผลข้างเคียง ลมมรสุมพัดผ่านจากด้านตะวันตกเฉียงใต้ และพัดไปทางอ่าวไทย ไปรวมกับพายุตาลิม ทำให้ฝนเริ่มตกตั้งแต่วันที่ 17-18 ก.ค.66 และเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ก.ค.66 ฝนหยุดตก
ตั้งแต่ช่วง 14.00น. วันที่ 18 ก.ค.66 มีน้ำป่าไหลเข้ามาในพื้นที่ราบลุ่ม และมีน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้น้ำไหลเข้ามาในเมือง อ.ละอุ่น ,อ.กระบุรี หลังจากนั้น น้ำลดลง ส่วนช่วงที่น้ำทะเลหนุน ทำให้น้ำท่วม ถ.เพชรเกษม สูง 30ซม. และช่วงกลางดึกเมื่อคืนนี้ น้ำไหลลงทะเลไปแล้ว
จากฝนที่ตกลงมาเมื่อวันที่ 17 ก.ค.66 อ.เมือง 188 มม.และ อ.ข้างเคียง 150 มม. ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนสูงมา 2 รอบ
ช่วง 22.00น.วันที่ 18 ก.ค.66 ฝนไปตกช่วงรอยต่อ จ.ชุมพร ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ จ.ระนอง ดีขึ้น น้ำที่ท่วม ถ.เพชรเกษม ลดลงบางจุด
สถานการณ์ในปีนี้ ฝนตกหนักเกือบ 200 มม. ไม่ค่อยพบเห็นมาก่อน ถ้าเกิดฝนตกหนัก ที่อ.กระบุรี จะมีน้ำหลากมากกว่าที่อื่น เรื่องการระบายน้ำ ระนอง เป็นจังหวัดที่ฝนตกลงมา จะทำให้น้ำในคลองมาชนกับน้ำทะเล ถ้าน้ำทะเลไม่หนุน ฝนตกมา 120-150 มม.ก็ไม่ท่วม ปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีน้ำทะเลหนุนสูง น้ำระบายไม่ทัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบเพื่อขนย้ายสิ่งของ
อย่างไรก็ตาม น้ำป่ามาเร็วและไปเร็ว ถ้าประชาชนได้รับข้อมูลเร็วก็จะเป็นการดี โครงการชลประทานนำเครื่องไปตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ช่วยระบายน้ำได้ระดับหนึ่ง
ส่วนในวันนี้ (19 ก.ค.66) จะนำอาหารไปแจกให้ประชาชนที่ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ สัญญาณเน็ตยังใช้ได้ สื่อสารแจ้งให้ประชาชนทราบทางเพจของจังหวัด มีชุดเคลื่อนที่เร็วไปแจ้งข้อมูลให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้รับทราบ
#น้ำท่วม
#ระนอง
CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระนอง,กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM