ส.ว.จะไม่ทน ฟ้องแล้ว 2 ทนายแถลงโจมตี-ดำเนินคดีคนคุกคาม ไม่ขัดหากเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล

17 กรกฎาคม 2566, 15:18น.


             นายสมชาย แสวงการ และนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา แถลงข่าวกรณีสมาชิกวุฒิสภาที่งดออกเสียงหรือไม่เห็นชอบสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วถูกโซเชียลคุกคาม โดยนายสมชาย ฝากเตือนประชาชน ที่หลงผิดตามการปลุกระดมของนักการเมือง จะดำเนินคดีในทุกช่องทาง ทั้งการฟ้องร้องดำเนินคดีทางแพ่งและอาญา



             ส่วนนายเสรี ระบุว่า มีการคุกคามข่มขู่ ส.ว.ที่ลงมติไม่เห็นชอบให้นายพิธา เป็นนายกฯ ซึ่งกระทบไปถึงสิทธิส่วนบุคคล คนในครอบครัว รวมถึงกิจการที่ทำอยู่ นอกจากนี้ หากใครเป็นลูกหลานของ ส.ว.ที่เห็นต่าง ก็จะกดดันเด็กเหล่านี้ไม่ให้อยู่ในกลุ่ม ไม่ให้ทำกิจกรรมด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ลุกลามไปทั่วพื้นที่ และมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังคอยยุยงเด็ก อ้างเสรีภาพ  ซึ่งตนคิดว่าถึงเวลาที่จะพูดเรื่องนี้ และต่อไปนี้ ส.ว.จะไม่ทนแล้ว  โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยื่นฟ้องทนายความ 2 คน คือ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ และนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น ซึ่งแถลงข่าวให้ร้าย ส.ว. และหลังจากนี้ จะดำเนินคดีกับคนที่กล่าวให้ร้าย ส.ว.ในโซเชียลด้วย



          ส่วนการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบสอง หากมีการเสนอชื่อนายพิธาแล้ว ยังไม่ได้รับเสียงเห็นชอบจากที่ประชุมอีก  รัฐสภาจะยอมเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนหรือไม่  นายสมชาย ระบุว่า เป็นเรื่องของ 8 พรรคร่วมที่ต้องไปเจรจากัน หากมีตัวเลือกอื่นก็ไม่ขัดข้อง ส่วนจะเปลี่ยนขั้วหรือสลับข้าง ก็รับได้ แต่จะต้องอภิปรายซักถามแคนดิเดตนายกฯ แทนประชาชนเหมือนเดิม ว่ามีนโยบายอะไรบ้าง แต่ในทางกฎหมายแล้ว มองว่า ไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธาซ้ำได้อีกแล้ว เนื่องจากเป็นญัตติที่ตกไปแล้ว  โดยในวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.66) จะนำประเด็นนี้เสนอต่อประธานรัฐสภา ในการประชุมวิป 3 ฝ่าย ว่าให้ฟังความเห็นของ ส.ว.บ้าง เช่น   ความเห็นเรื่องข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ถ้าหากจะเปลี่ยนแปลงก็ไม่ควรประชุมวันที่ 19 กรกฎาคม  แต่อาจจะเว้นสัก 1-2 สัปดาห์ เพื่อเตรียมความพร้อมมาตอบคำถามของ ส.ว.ในเรื่องของนโยบายต่างๆ



          ส่วนกรณีพรรคก้าวไกลเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. นายสมชาย กล่าวว่า จะไม่ส่งผลต่อการโหวตในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้  และจะยิ่งทำให้ย่ำแย่ลงด้วย เพราะต้องใช้กระบวนการประมาณ 3 เดือน รวมทั้งต้องใช้เสียงของ ส.ว.ถึง 1 ใน 3 และใช้เสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านถึง 20 เปอร์เซ็นต์  ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล และมองว่าการยื่นมาตรา 272 ไม่ได้หวังผลสำเร็จ  แต่ไปสอดรับกับยุทธศาสตร์หลายขา ทั้งให้โซเชียลหรือมวลชนไปปิดล้อม กดทับ ทั้งเชิญชวน และขอร้องให้ปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นยุทธวิธีทางการเมืองที่ยิ่งทำยิ่งเป็นผลร้าย



          นายสมชาย ระบุว่า หากใช้วิธีการปกติโดยไม่มีการคุกคาม และถ้าพรรคก้าวไกลพยายามตอบคำถามของ ส.ว.เรื่องนโยบายที่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ ส.ว.ก็ยินดีสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่เป็นหน้าตาและปากเสียงให้กับฝ่ายบริหาร แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ถอยกลับไปทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นกรรมาธิการและฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพได้



 



#โหวตนายก



#สมาชิกวุฒิสภา



#สมชายแสวงการ



#เสรีสุวรรณภานนท์ 

ข่าวทั้งหมด

X