ซีเอ็นเอ็น และ รอยเตอร์ รายงานว่า ข้อตกลงให้ยูเครนขนส่งสินค้าทางเรือผ่านทะเลดำสู่ตลาดโลกจะครบกำหนดเที่ยงคืนของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ถ้าหากรัสเซียไม่ยอมตกลงให้มีการขยายระยะเวลาของสัญญาฉบับนี้ต่อไป ขณะเดียวกันเรือสินค้าลำสุดท้ายตามข้อตกลงนี้ แล่นออกจากท่าเรือเมืองโอเดสซาทางภาคใต้ของยูเครน เมื่อเช้ามืดวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น
ทำเนียบเครมลินของรัสเซีย ระบุในแถลงการณ์ หลังการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียกับประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซาของแอฟริกาใต้เมื่อวานนี้ ระบุว่า นายปูตินบอกกับผู้นำแอฟริกาใต้ว่า ข้อตกลงนี้ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ตามที่กำหนดไว้ในบันทึกความทรงจำที่รัสเซียและสหประชาชาติ ลงนามไว้ในปีที่แล้ว คือ ไม่สามารถจะขจัดอุปสรรคในการส่งออกอาหารและปุ๋ยของรัสเซียไปสู่ตลาดโลก
นอกจากนั้น เป้าหมายหลักของข้อตกลงฉบับนี้คือ การให้ยูเครนส่งออกสินค้าเกษตรไปยังกลุ่มประเทศที่ขาดแคลนอาหารคือ ทวีปแอฟริกา ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของสัญญาด้วย นายปูติน เคยบ่นในเรื่องอุปสรรคต่างๆในการส่งออกสินค้าเกษตรและปุ๋ยจากรัสเซียสู่ตลาดโลกมาหลายครั้ง แต่ในที่สุด รัสเซีย ยอมเปลี่ยนใจ โดยตกลงให้มีการต่ออายุข้อตกลงฉบับนี้เรื่อยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
เช่น ช่วงปลายเดือนตุลาคมและต้นเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว รัสเซีย ประกาศระงับการเข้าร่วมในข้อตกลงนี้ 2-3 วัน อ้างว่า ยูเครนโจมตีเมืองเซวัสโตโพลในอ่าวไครเมียซึ่งอยู่ในความยึดครองของรัสเซีย แต่ต่อมา รัสเซียเปลี่ยนใจ กลับเข้าร่วมกับข้อตกลงนี้ ให้มีการขยายอายุข้อตกลงไปอีก 120 วัน หลังการไกล่เกลี่ยของสหประชาชาติและตุรกี
ข้อตกลงนี้ จัดทำขึ้นระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยตุรกีและสหประชาชาติ ทำหน้าที่ช่วยไกล่เกลี่ยมาตั้งแต่แรก เริ่มใช้ครั้งแรกในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว กำหนดขั้นตอนวิธีการเพื่อให้ยูเครนสามารถส่งออกสินค้าเกษตรทางเรือผ่านทะเลดำไปสู่ตลาดโลกอย่างปลอดภัย ก่อนหน้านั้น รัสเซียปิดล้อมทะเลดำนับตั้งแต่บุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว กระทบการส่งออกสินค้าเกษตรของยูเครน อีกทั้งทำให้ราคาอาหารแพงทั่วโลก
#ส่งออก
#สินค้าเกษตรยูเครน