‘ภูมิธรรม’ เผยเพื่อไทย-ก้าวไกลยังไม่สรุปเสนอชื่อ ‘พิธา’ ชิงนายกฯ รอบสอง

16 กรกฎาคม 2566, 11:17น.


           วันนี้ (16 ก.ค.66)  นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ที่ออกแถลงการณ์ว่า พร้อมจะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล หากไม่ผ่านการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบสอง ในวันที่ 19 ก.ค.นี้  



            นายภูมิธรรม ระบุว่า การสื่อสารระหว่างตัวแทนของพรรคก้าวไกลที่หารือกับพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 14 ก.ค.66 อาจเกิดความคลาดเคลื่อน เพราะจากการหารือของตัวแทนทั้งสองพรรค ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกัน  แต่ละพรรคยังสงวนความคิดเห็นเพื่อไปหารือภายในกันก่อน  แล้วค่อยไปหารือกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่เดิมกำหนดจะประชุมร่วมกันในช่วงเช้าวันที่ 18 กรกฎาคม แต่เปลี่ยนมาเป็นช่วงเย็นวันที่ 17 กรกฎาคมนี้  ก่อนที่ทั้งสองพรรคจะนำความเห็นมาหารือกันอีกครั้ง  เพื่อกำหนดเป็นแนวทางโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 กรกฎาคม  ดังนั้น จึงยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 กรกฎาคมของ 8 พรรคร่วม



          ส่วนประเด็นทั้งสองพรรค สงวนความคิดเห็นกลับไปพิจารณาภายในนั้น เช่น เรื่องการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่มีหลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสังเกตว่า ถือเป็นการเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 หรือไม่  เพราะการเสนอญัตติซ้ำในสมัยประชุมเดียวกัน ไม่สามารถทำได้ ทางออกของเรื่องนี้ คือ ประธานรัฐสภาเป็นผู้วินิจฉัย หรือให้ที่ประชุมลงมติหาทางออกร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงทั้งสองแนวทาง หากสามารถเสนอชื่อนายพิธาได้  ส.ส. 141 เสียงของพรรคเพื่อไทย ก็พร้อมสนับสนุนนายพิธา แต่นายพิธาต้องตอบให้ชัดว่า สมรภูมินี้จะสู้ถึงที่สุดเมื่อไหร่ เพราะคะแนนที่ออกมาจากการโหวตครั้งแรกเห็นชัดเจนว่า การจะไปถึง 376 เสียงนั้น เป็นเรื่องที่ลำบาก โดยเสียง ส.ว.ได้มามีเพียง 13 เสียง  การจะไปให้ถึง 64 เสียง  พรรคก้าวไกลต้องตอบให้ได้ว่า  จะนำมาจากไหน  การเสนอครั้งนี้มีโอกาสสำเร็จหรือไม่  นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องการเสนอชื่อแข่งจากขั้วรัฐบาลเดิม  ที่มีกระแสข่าวเข้ามาอีก เรื่องเหล่านี้เป็นประเด็นที่ต้องได้คำตอบที่ชัดเจนก่อนจะโหวตในวันที่ 19 กรกฎาคม



             นายภูมิธรรม ยังขอปฎิเสธที่จะตอบคำถามว่า หากไม่เสนอชื่อนายพิธา แล้ว 8 พรรคร่วมจะเสนอชื่อใคร เพราะต้องให้ได้ความชัดเจนก่อนว่าจะเสนอชื่อนายพิธาหรือไม่  แล้วจึงสามารถคิดต่อได้  หากยังไม่ได้ข้อสรุป การคิดอะไรต่อ ก็จะเป็นการขยายประเด็นไปเรื่อยๆ



           ส่วนกระแสข่าวว่า มีแกนนำพรรคเพื่อไทยบางคนระบุว่า การที่พรรคก้าวไกลไม่ได้เสียง ส.ว.ตามที่ประกาศไว้ ถือเป็นการหลอกพรรคร่วมด้วยกัน และเอ็มโอยูที่เซ็นกันไว้ถือว่ายุติไปตั้งแต่ผลโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรกออกมา  นายภูมิธรรม กล่าวว่า ผู้มีความเห็นสามารถคิดได้ว่าถูกหลอก  เพราะตัวเลขที่ออกมาคลาดเคลื่อนจากที่แกนนำพรรค ก้าวไกลระบุไว้  เช่น น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ที่ระบุว่ามีเสียงเพียงพอ  หรือ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่บอกว่ามีเสียงเกิน 100 เสียง  แต่อีกมุมหนึ่ง ตัวเลขที่คลาดเคลื่อน อาจเกิดจากไม่เข้าใจความคิดของ ส.ว.ทำให้ประเมินผิดพลาด เพราะถ้าเข้าใจ คงประเมินได้ใกล้เคียงความเป็นจริงกว่านี้ ส่วนที่ระบุว่า เอ็มโอยูสิ้นสุดไปแล้วนั้น  ขอไม่ตอบประเด็นดังกล่าว แต่สิ่งที่เห็นคือมีการเพิ่มเนื้อหาของเอ็มโอยู ที่ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงเดิมตามที่นายพิธา ได้แสดงความคิดเห็นออกมา ถือเป็นการประกาศของพรรคก้าวไกลโดยที่ยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกัน



          ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกล ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ก็เคยยื่นแก้ไขมาตรานี้ไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่ผ่านการพิจารณา และตอนนั้นพรรคก้าวไกลเองก็งดออกเสียง  นอกจากนี้ ที่ผ่านมา เคยมีการเสนอเรื่องนี้ 6-7 ครั้ง  แต่ก็ไม่ผ่านทั้งหมด เหตุใดจึงมาผลักดันเรื่องนี้ในช่วงนี้  ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองว่าไม่ใช่เรื่องด่วนที่ต้องทำตอนนี้  เพราะทราบผลอยู่แล้วว่าไม่ประสบความสำเร็จ  เนื่องจาก การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีเสียงฝ่ายค้านสนับสนุนร้อยละ 20  แต่ตอนนี้ยังไม่มีฝ่ายค้าน และต้องได้เสียง ส.ว. 1 ใน 3 ของสมาชิก ส.ว. หรือ 84 เสียง จะหามาจากไหน  จึงมองว่าเป็นการเสนอเพื่อเป็นสัญลักษณ์เท่านั้น



               นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เพราะเคยทำมาแล้ว พรรคเพื่อไทยจึงทำเป็นนโยบายในการหาเสียงว่า หากได้เป็นรัฐบาล ในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก จะนำเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อทำประชามติ แก้รัฐธรรมนูญทั้งระบบโดยการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เชื่อว่าจะเสร็จสิ้นใน 1-2 ปี   



              ทั้งนี้ หากเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ของพรรคก้าวไกลเข้าสภาฯ พรรคเพื่อไทยก็จะงดออกเสียง เพราะอยากให้โฟกัสเรื่องจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องสำคัญที่สุดก่อน เพราะปัญหาประชาชนการฟื้นฟูเศรษฐกิจชัดเจนเป็นเรื่องที่รอไม่ได้



 



#โหวตนายก



 



 

ข่าวทั้งหมด

X