นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ปรับประมาณการณ์ส่งออกปี 2558 เหลือร้อยละ 0.5 -1 โดยจากการวิเคราะห์ตลาดส่งออกและรายสินค้าต่าง ๆ พบว่า เศรษฐกิจการนำเข้าโดยรวมชะลอตัวลงมากและตลาดต่าง ๆ มียอดนำเข้ารวมลดลงอย่างชัดเจน ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าผลักดันการส่งออกให้เติบโตร้อยละ 1.2 คิดเป็นมูลค่า 2 แสน 30,304 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่า เศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะดีขึ้น ราคาน้ำมันครึ่งปีหลัง จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ค่าเงินบาทอยู่ในกรอบ 32.60 -33.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาสินค้าเกษตรทั้งปีใกล้เคียงกับราคาเกษตรปีที่แล้ว สำหรับปัจจัยบวกการส่งออกไทยปีนี้ คือ การฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจโลก โดยมีประเทศที่กำลังพัฒนาเป็นแรงขับเคลื่อน นอกจากนี้ การส่งเสริมเขตเศรษฐกิจชายแดนเพื่ออำนวยความสะดวกการนำเข้าและส่งออกก็จะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้การส่งออกของไทยเติบโตได้ดี ส่วนปัจจัยลบจะมีความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศไทยและประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะค่าเงินเยน ค่าเงินยูโร แนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกยังไม่นิ่ง ราคาสินค้าเกษตรยังมีแนวโน้มลดลง การถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2558 ของสหภาพยุโรป (อียู) มาตรการกีดกันทางการค้าบางประเทศ และมาตรการของ อียู ที่ให้ใบเหลืองกับสินค้าอาหารทะเลกับไทยและให้ภาครัฐเร่งแก้ปัญหาภายใน 6 เดือน คาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ แต่ยอมรับว่าส่งผลกับภาพลักษณ์และความมั่นใจของนักลงทุนในประเทศไทยบ้าง
ด้านนางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกไทยเดือนมีนาคม 2558 ภาพรวมดีขึ้น ชะลอตัวในอัตราที่ลดลง และยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดในตลาดส่งออกที่สำคัญไว้ได้ ประกอบกับการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรในกลุ่มสินค้าที่มีปัญหา ปริมาณการส่งออกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยตลาดส่งออก เช่น สหรัฐฯ ขณะที่ตลาดสหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่นยังคงหดตัว กระทรวงพาณิชย์ จะต้องผลักดันการส่งออกในตลาดใหม่ เช่น อาเซียน จีน อินเดีย ควบคู่ไปกับการรักษาตลาด คือ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป เพื่อให้การส่งออกของไทยกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น