จับ ‘ครูฟู่’ ครูภาษาไทยดีเด่นผันตัวเป็นมิจฉาชีพเพราะติดพนันออนไลน์

14 กรกฎาคม 2566, 10:06น.


          ตำรวจชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุมนายวิวัฒน์ หรือ “ครูฟู่” ฉายา “สุนทรฟู่” อายุ 36 ปี ผู้ต้องหา 4 หมายจับ ในข้อหา ฉ้อโกง และนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ในพื้นที่กรุงเทพฯ นครสวรรค์ และสมุทรสาคร หลังมีผู้เสียหายร้องเรียนว่าถูกครูฟู่ หลอกลวงจนเสียทรัพย์สินหลายราย โดยถูกจับได้ที่ห้องพักในเขตบางเขน



         ครูฟู่ เล่าเส้นทางชีวิตของตัวเองว่า เรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยดัง ด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับ 1 จากนั้นมาเป็นครูอัตราจ้างที่โรงเรียนชื่อดัง แล้วสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู ได้เป็นหน้าห้องของ ผอ.โรงเรียน จนกระทั่งมีเรื่องราวที่วงโยธวาทิตไปขอยืมเงินคุณตัน ภาสกรนที ตนจึงขอย้ายไปอยู่โรงเรียนอื่น หลังจากนั้นชีวิตก็รุ่งเรือง ได้เข้าไปช่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการและมีโอกาสแต่งบทอาศิรวาท จนได้รับรางวัลครูภาษาไทยดีเด่น ประจำปี 2560 และได้รับสมญานามว่า “สุนทรฟู่”





             จนปี 2563 โรงเรียนเปลี่ยน ผอ.คนใหม่ ทำให้ไม่ลงรอยกัน และตนเองทำงานหนักจนป่วย จึงตัดสินใจไม่ไปโรงเรียน ทำให้ถูกตั้งคณะกรรมการสอบ ประกอบกับติดแฟนหนุ่มที่เจอกันจากการจ้างมานวด แล้วถูกใจกัน รวมทั้งติดการพนันด้วย ทำให้ชีวิตเริ่มดำดิ่ง เงินเก็บที่มีอยู่ก็เริ่มหมด จนต้องโทรศัพท์ไปขอยืมเงินนักเรียนและครูที่รู้จัก เด็กๆ รักครูก็ให้ยืมครั้งละ 1,000-2,000 บาท บางคนให้มากถึง 4,000 บาท ซึ่งครูฟู่ไม่เคยคืนเงินเด็ก



              หลังจากนั้นก็เริ่มเดินสายหลอกลวง ผันตัวเป็นมิจฉาชีพ ด้วยการโพสต์หลอกเหยื่อว่ามีห้องเช่าหรือบ้านพัก เมื่อเหยื่อโอนเงินมัดจำมาแล้ว ก็จะเชิดเงินหนี  ส่วนใหญ่จะแฝงตัวอยู่ในแวดวงครูหรือโรงเรียน หาเหยื่อที่เป็นครูหรือโรงเรียนที่ต้องการเช่าบ้านพักเพื่อทำกิจกรรมในต่างจังหวัด หรือนักศึกษาที่ต้องการหาห้องเช่าชั่วคราวเพื่อรับปริญญา ล่าสุด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ก็เพิ่งโพสต์หลอกเหยื่อที่มองหาที่พักสำหรับพานักเรียนมาร่วมกิจกรรมแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ที่จังหวัดน่าน ซึ่งมีโรงเรียนจากต่างจังหวัดหลายจังหวัดต้องการที่พัก ครูฟู่จะเอาโปรไฟล์ของตัวเองในอดีต มาสร้างความน่าเชื่อถือ โพสต์รูปตัวเองใส่ชุดข้าราชการครู ทำให้เหยื่อตายใจ และหลงเชื่อโอนเงินค่ามัดจำบ้านพักหรือห้องเช่าให้จำนวนมาก ซึ่งนอกจากจะทำให้โรงเรียนหรือครูที่เป็นผู้เสียหายต้องเสียทรัพย์สินแล้ว ยังเป็นการตัดโอกาสนักเรียนที่จะมาทำกิจกรรมด้วย



             ครูฟู่ บอกว่า ต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆซ่อนๆ เปลี่ยนที่อยู่อาศัยทุก 2 สัปดาห์ และระยะหลังก็แฝงตัวเข้าสู่วงการนวดเชิงอนาจาร จนตำรวจสืบทราบเบาะแสว่า ครูฟู่ซ่อนตัวอยู่กับแฟนหนุ่มในห้องเช่า ไม่ได้ทำงาน ติดการพนันออนไลน์ และยังหลอกลวงชาวบ้านอยู่ จึงนำกำลังเข้าจับกุมขณะกำลังวางแผนเปลี่ยนที่หลบซ่อนตัวพอดี





             ครูฟู่ ยอมรับว่า หลอกลวงคนมาแล้วหลายราย ทำมานาน และรู้ว่าสิ่งที่ทำไปนั่นเป็นเรื่องที่ผิด แต่อ้างว่าทำไปเพราะหิวและต้องหาที่อยู่ จึงขอโทษทุกคนและขอโอกาสให้สังคมให้อภัย  หากเกิดชาติหน้าก็ขอให้ตนได้ชดใช้กรรม หลังจากนี้อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ อยากใช้ความรู้ที่มีทำประโยชน์เพื่อสังคม เช่น เป็นครูอาสาสอนที่ไหนก็ได้โดยไม่คิดเงิน  ครูฟู่ยังแต่งกลอนสดฝากเป็นอุทาหรณ์ด้วยว่า



“ก่อนจะทำสิ่งใดขอให้คิด  อย่าพลาดผิดจนชีวิตคิดถลำ



ทำสิ่งใดประกอบด้วยเวรกรรม  และเน้นย้ำทำกรรมดีอย่างที่เป็น



หากพลาดผิดผิดไปแล้วไม่แคล้วโทษ  จากเป็นโจทก์ตกจำเลยคนเหยียบย่ำ



ขอโอกาสที่มีได้แก้กรรม จะกระทำแต่สิ่งดีเพื่อสังคม”



          เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ส่งตัวครูฟู่ให้ สน.บางยี่เรือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ไม่น่าเชื่อว่าการพนันจะทำลายชีวิตคนคนหนึ่งได้ถึงเพียงนี้ จากครูผู้ประสาทวิชา กลายเป็นมิจฉาชีพ จึงขอให้การจับกุมครั้งนี้ เป็นอุทาหรณ์ให้ประชาชนตระหนักถึงภัยร้ายจากการพนัน



#ครูฟู่



#สุนทรฟู่



#มิจฉาชีพ



#พนันออนไลน์

ข่าวทั้งหมด

X