ตลาดการเงิน ติดตามสถานการณ์การเมือง ที่ประชุมรัฐสภา ประชุมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตลาดเปิดรอบเช้านี้แตะ 34.67 บาทต่อดอลลาร์ มีทิศทางแข็งค่าขึ้น ขณะที่ ปิดตลาดเย็นวานนี้(12 ก.ค.66) อยู่ที่ 34.91/92 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.67 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.91 บาทต่อดอลลาร์ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่า จะอยู่ที่ระดับ 34.60-34.75 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้ผลการโหวตเลือกนายกฯและมองกรอบเงินบาทที่ระดับ 34.50-35.00 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้ผลการโหวตเลือกนายกฯ โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ หลังอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ต่างชะลอลงกว่าคาด ทำให้ตลาดเริ่มมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) อาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุดการขึ้นดอกเบี้ย
แนวโน้มของค่าเงินบาท มองว่า การแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมานั้น ก็เป็นไปตามมุมมองของเราที่คาดว่า เงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลงได้บ้าง หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI สหรัฐฯ ชะลอตัวลง ซึ่งเรามองว่า ปัจจัยภายนอก อย่างทิศทางเงินดอลลาร์ อาจไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนไปมากนัก
นอกจากนี้ ตลาดอาจยังคงมีความกังวลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีนอยู่บ้าง เนื่องจาก ยอดการส่งออก (Exports) เดือนมิ.ย.66 อาจหดตัวต่อเนื่องถึง -10%y/y นอกจากนี้ ยอดการนำเข้า (Imports) ก็จะหดตัวราว -4.8% สะท้อนความต้องการในประเทศที่ไม่ได้ฟื้นตัวอย่างที่ตลาดคาดหวัง สอดคล้องกับการปรับตัวลดลงของดัชนี PMI ของจีน
ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ติดตามสถานการณ์เช่นเดียวกัน เมื่อวานนี้ หุ้นไทยปิดลบ 5.82 จุด กังวลการเมืองกดดันโหวตนายกฯ ปิดที่ระดับ 1,491.14 จุด ลดลง 5.82 จุด (-0.39%) มูลค่าการซื้อขาย 52,288.15 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,516.63 ล้านบาท กองทุนซื้อสุทธิ 1,374.79 ล้านบาท
ขณะที่ การลงทุนในวันนี้ นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า นักลงทุนยังคงติดตามการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ตลาดน่าจะปรับตัวขึ้นได้ในกรอบจำกัด ให้แนวรับไว้ที่ 1,485-1,480 จุด และแนวต้าน 1,510-1,515 จุด
การปรับตัวของตลาดหุ้นไทย น่าจะเป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยมีแรงหนุนจากตัวเลข CPI สหรัฐฯ ที่ออกมาชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้เป็นครั้งสุดท้าย แต่อย่างไรก็ตาม มองว่า แม้เฟดจะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ยังไม่ปรับลดลงเร็วๆ นี้ ซึ่งน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้อีกสักระยะหนึ่ง
#โหวตเลือกนายกฯ
#ค่าเงินบาท
#ตลาดหุ้นไทย
แฟ้มภาพ
CR: ขอบคุณข้อมูล การเงินธนาคาร