ความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ย ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์ นักลงทุน ดูตัวเลขเงินเฟ้อและรายงานผลประกอบไตรมาส 2 ในช่วงปลายสัปดาห์
ปัจจัยคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ราคาน้ำมัน ขยับลงในวันจันทร์(10ก.ค.66) จากความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่งอาจกระทบต่ออุปสงค์ทางพลังงาน
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนส.ค.66 ลดลง 87 เซนต์ ปิดที่ 72.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนก.ย.66 ลดลง 78 เซนต์ ปิดที่ 77.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อทำให้กลับสู่เป้าหมายร้อยละ 2 ท่ามกลางตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ นางดาลี กล่าวว่า การดำเนินการที่น้อยเกินไปจะสร้างความเสี่ยงมากกว่าการดำเนินการที่มากเกินไป แต่ขณะนี้การดำเนินการของเฟดมีความสมดุลมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเฟดจึงควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยช้ากว่าที่ดำเนินการในปีที่แล้ว เพื่อประเมินการตอบรับของเศรษฐกิจต่อมาตรการของเฟด สอดคล้องกับนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า แรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังคงแข็งแกร่งเป็นปัจจัยทำให้เฟดยังคงต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อช่วงต้นปี เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากกว่าคาด ขณะที่ เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง และการที่จะทำให้เงินเฟ้อกลับสู่ระดับ 2% เห็นว่า เฟดจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นอีก และคงไว้ระยะหนึ่ง ขณะที่เรารวบรวมข้อมูลเพื่อดูว่าเศรษฐกิจมีการปรับตัวอย่างไร
นางเมสเตอร์ กล่าวว่า ผู้นำภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อแนวโน้มในอนาคต และคาดว่า สหรัฐฯจะไม่เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้
#น้ำมันลดลง
#เฟดขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก