จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ทางตะวันออกของเมืองโพคารา และกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงเนื่องจากจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวมีความลึกประมาณ 10 กิโลเมตรเท่านั้น และยังมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นเป็นระยะ โดยอาสาสมัครกู้ภัย พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 4,000 ศพแล้ว และพบความเสียหายทั้งอาคารบ้านเรือน โบราณสถาน และสิ่งก่อสร้างต่างๆ ไปจนถึงอินเดีย บังกลาเทศ และเขตปกครองตนเองธิเบต โดยสำนักข่าวของทางการจีนรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอีก 66 คนในอินเดียและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คนในทิเบต และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปถึงภูมิภาคที่อยู่ในที่ห่างไกล
คณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรป หรืออียู จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือฉุกเฉิน 3 ล้านยูโร พร้อมสนับสนุนน้ำสะอาด ยาและเวชภัณฑ์ รวมทั้งที่พักอาศัยชั่วคราว และอุปกรณ์การสื่อสาร ไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง
ส่วนบรรยากาศโดยทั่วไปยังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ตามท้องถนนและโรงพยาบาลมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก เนปาลมีแพทย์ 2 ล้าน 1 แสนคน และมีเตียงโรงพยาบาลขนาด 50 เตียงสำหรับประชาชนทุก 10,000 คน
อาสาสมัครกู้ภัยจากหลากหลายกลุ่มต้องใช้วิธีเดินเท้าเข้าไปในพื้นที่ โดยเวิลด์ วิชั่น ระบุว่าบางหมู่บ้านต้องใช้เวลาเดินเท้า 6-8 ชั่วโมง
ขณะที่การช่วยเหลือนักปีนเขาที่ติดอยู่บนเทือกเขาเอเวอเรสต์ จำนวนมากกว่า 150 คนนั้น ทางการเนปาลส่งเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง 3 ลำ ไปช่วยเหลือแล้ว และกระทรวงการท่องเที่ยวอยู่ระหว่างพิจารณาปิดสถานที่ท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราวตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้
และกระทรวงมาตุภูมิของเนปาล ประกาศต้องการความช่วยเหลือ เร่งด่วนด้านอาหาร น้ำสะอาด และสิ่งของบรรเทาทุกข์ และต้องการเฮลิคอปเตอร์เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในพื้นที่นอกกรุงกาฐมาณฑุ
ด้านองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ ระบุว่าเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ส่งผลให้มีเด็กต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนเกือบ 1 ล้านคน และเสี่ยงที่จะเกิดโรคระบาด เนื่องจากปัญหาสาธารณสุขและการเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดที่จำกัด ขณะที่เด็กบางคนพลัดหลงจากครอบครัวของตัวเอง ทางยูนิเซฟส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือแล้ว 120 ตัน
ขณะที่องค์การอาหารโลก ภายใต้องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือเอฟเอโอ เตรียมเปิดภารกิจบรรเทาทุกข์ขนาดใหญ่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่การแจกจ่ายอาหารสำรองสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัย 40,000 คน ได้นาน 3 เดือน
ส่วนนักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันไอเอชเอส สหรัฐ ระบุว่า เนปาลเป็นประเทศที่มีรายได้น้อย และมีศักยภาพด้านการบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งการก่อสร้างซ่อมแซมอาคารต่ำ จึงคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการฟื้นฟูประเทศ แต่เงินจำนวนนี้ คิดเป็นร้อยละ 20 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ขีดความสามารถที่จะหาเงินมาบรรเทาทุกข์และความพยายามในการบูรณะในระยะยาวจึงมีข้อจำกัดเป็นอย่างมาก
และผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ วิเคราะห์ว่า แผ่นดินไหวในครั้งนี้ทำให้กรุงกาฐมาณฑุเคลื่อนที่จากที่ตั้งเดิมไปทางใต้ถึง 3 เมตร โดยรอยเลื่อนเปลือกโลกขนาดความยาว 150 กม. และกว้าง 50 กม.ที่ลากผ่านใต้หุบเขากาฐมาณฑุนั้น ชั้นหินด้านบนสุดของรอยเลื่อนไถลลงจากหินด้านล่างไปทางทิศใต้ และทำให้เกิดการขยับตัวต่อเนื่องไปอีกหลายพื้นที่ นักวิทยาศาสตร์จึงเห็นว่า ควรที่จะต้องทำแผนที่โลกกันใหม่
ส่วนที่ออสเตรเลีย มีความกังวลมากขึ้น เมื่อพบว่า แพทย์ที่เรียนจบในออสเตรเลียชักชวนเพื่อนร่วมอาชีพไปช่วยเหลือกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสในซีเรีย โดยในคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ ระบุชื่อแพทย์ผู้นี้คือ อาบู ยูซุฟ และอยู่ที่เมืองรากา ในซีเรีย แต่สื่อออสเตรเลีย ระบุว่าชายผู้นี้คือ ทาเรก คัมเลห์ ซึ่งจบจากการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในเมืองแอดิเลด เมืองเอกของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย
ขณะที่กองทัพสหรัฐ เริ่มฝึกทหารให้แก่กลุ่มนกบฏซีเรีย แต่ยังไม่ชัดเจนว่ากองทัพสหรัฐจะร่วมรบอยู่ในกลุ่มกบฎด้วยหรือไม่
สถานีโทรทัศน์ของทางการรัสเซียออกอากาศสารคดีความยาว 2 ชั่วโมง ในวาระครบรอบ 15 ปีของการที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อยู่ในอำนาจ ซึ่งมีสาระเกี่ยวกับความสำเร็จและปัญหาท้าทายในการบริหาร ตลอดจนการที่ฝ่ายตะวันตกเข้ามาแทรกแซงกิจการภายใน
ส่วนการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในญี่ปุ่น มีสตรีได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี 4 คนเท่านั้นจากทั้งหมด 222 คน จากที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ มีเป้าหมายที่จะให้สตรีดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงจำนวนร้อยละ 30 ในปี 2563 ซึ่งนักการเมืองสตรีของญี่ปุ่นหลายคน ยอมรับว่า เป็นเรื่องยากที่สตรีจะชนะการเลือกตั้ง เพราะญี่ปุ่นมีการเลือกปฏิบัติทางเพศมาเป็นเวลานาน
อินโดนีเชียได้ส่งกำลังทหารและตำรวจ 1,203 นายรักษาความปลอดภัยบริเวณท่าเรือ วิจายา ปูรา ซึ่งเป็นท่าเรือไปสู่เรือนจำบนเกาะนูซากัมบันกัน หลังการประกาศให้ประหารชีวิตนักโทษคดียาเสพติดจำนวน 7 คนจากทั้งหมด 9 คนและจะเป็นการประหารชีวิต ที่เกิดขึ้นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด เข้ารับตำแหน่ง และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอินโดนีเชียกับออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และบราซิลอยู่ในความตึงเครียด
สำนักงานบริหารพลังงานแห่งชาติจีน เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ จีนผลิตพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอีกกว่า 5 กิกะวัตต์ มากกว่าไตรมาสหนึ่งและสองของปี 2557 รวมกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า จีนตั้งใจจะปฏิบัติตามเป้าหมายข้อตกลงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่จีนเห็นชอบร่วมกับสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ในเรื่องเศรษฐกิจ รัฐบาลจีนยังมีแผนที่จะดำเนินการควบรวมกิจการรัฐวิสาหกิจครั้งใหญ่ โดยจะเริ่มต้นกับธุรกิจในแวดวงพาณิชย์ก่อน ภายใต้เป้าหมายที่จะลดจำนวนรัฐวิสาหกิจเหล่านี้ให้เหลือเพียง 40 แห่งเท่านั้น
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายเมื่อคืนนี้ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 42.17 จุด หรือร้อยละ 0.23 ปิดที่ 18}037.97 จุด
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 8.77 จุด หรือร้อยละ 0.41 ปิดที่ 2,108.92 จุด
ดัชนีแนสแด็กลดลง 31.84 จุด หรือร้อยละ 0.63 ปิดที่ 5,060.25 จุด
นักวิเคราะห์ระบุว่า เกิดจากการที่นักลงทุนเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง และยังรอฟังผลประกอบการไตรมาส 2ของผู้ประกอบการรายใหญ่ รวมถึงบริษัท แอปเปิล ที่ตลอด 8 ไตรมาสที่ผ่านมา แอปเปิล มีกำไรมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ทุกครั้ง นอกจากนี้ นักลงทุนยังเฝ้ารอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบาลของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ในวันพุธนี้ ที่จะมีการส่งสัญญาณเรื่องเวลาของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้
*-*