*รมว.คมนาคม เตรียมC130 รับคนไทย /UN ปฎิบัติการให้ความช่วยเหลือครั้งใหญ่ในเนปาล*

มาตรการให้ความช่วยเหลือชาวเนปาลที่ประสบภัยจากแผ่นดินไหว พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบหมายให้กองทัพอากาศเตรียมเครื่อง C130 เพื่อใช้ในการรองรับประชาชนที่เดินทางกลับ และได้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ ,ทีมแพทย์ และทีมกู้ภัย เพื่อลำเลียงสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งอนุมัติจากกระทรวงกลาโหม คาดว่าจะมีความชัดเจนหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้มอบหมายให้การบินไทยดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยการอพยพสิ่งของรวมถึงดูแลผู้โดยสาร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่าง การจัดทำเเผนงานในการเดินทางและหาสถานที่ในการขนถ่ายผู้โดยสารคาดว่าจะมีความชัดเจนในวันพรุ่งนี้เช่นกัน อยู่ระหว่างประสาน กับหน่วยงานราชการและภาคเอกชน เพื่อรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเนปาลคาดว่าใน 1 สัปดาห์จะได้ยอดรวบรวมสิ่งของ เพื่อทำการจัดส่ง.

ด้านโครงการอาหารโลก หรือ ดับเบิลยูเอฟพี ของสหประชาชาติ  เปิดเผยว่า กำลังเตรียมการสำหรับปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือครั้งใหญ่ไปยังเนปาล  โดยเครื่องบินให้ความช่วยเหลือลำแรกมีกำหนดจะเดินทางถึงเนปาลในวันอังคาร สหประชาชาติ (UN) กำลังเตรียมการขอความช่วยเหลือฉุกเฉินให้แก่หลายประเทศในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบ โฆษกหญิงของดับเบิลยูเอฟพีกล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือครั้งนี้จะเป็นปฏิบัติการครั้งใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญของดับเบิลยูเอฟพี เดินทางถึงกรุงกาฐมาณฑุ ของเนปาล เพื่อประเมินความต้องการความช่วยเหลือและประมาณการว่า ที่พักและเวชภัณฑ์มีความจำเป็นเป็นอันดับแรก ๆ องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ได้จัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นสำหรับคนกว่า 40,000 คน ที่สามารถใช้ได้เป็นเวลา 3 เดือน แต่อาหารกำลังจะหมดไปอย่างรวดเร็วและหน่วยงานของสหประชาชาติกำลังเคลื่อนย้ายคลังอาหารไปยังภูมิภาคดังกล่าว เจ้าหน้าที่ดับเบิลยูเอฟพีกำลังนำอาหารสำเร็จรูปที่ไม่ต้องปรุงที่จัดเตรียมไว้ที่นครดูไบ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ขึ้นเครื่องและคาดว่าเครื่องบินจะเดินทางถึงเนปาลในวันพรุ่งนี้ โดยจะนำไปแจกจ่ายด้วยรถบรรทุกเท่าที่เส้นทางจะเอื้ออำนวย แต่เนื่องจากถนนหนทางได้รับความเสียหายหนักอาจจะต้องใช้เครื่องบินในการแจกจ่ายอาหาร

ขณะที่ ยูเนสโก ระบุว่า กรุงกาฐมาณฑุ มีมรดกเชิงสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งพระราชวัง  วัดวาอาราม และสิ่งปลูกสร้าง ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนมากมายเดินทางไปเยี่ยมชม แต่จากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง  นักโบราณคดี ระบุว่าการบูรณะมรดกโลกแห่งนี้ให้กลับมาเหมือนเดิมเป็นไปไม่ได้เลย