ความคืบหน้ากรณีนายบวรวงศ์ อายุ 36 ปีขับรถเก๋งสีเทา ชนรถยนต์ชาวบ้านหลายคัน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ก่อนจะถูกตำรวจสกัดจับได้ เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (7 ก.ค.66)
พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุอาละวาดขับรถเฉี่ยวรถและทรัพย์สินของประชาชนภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น จากนั้นขับรถหนีไปตามถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองของแก่น ตลอดเส้นทางก็ขับชนรถของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่จนได้รับความเสียหาย 6 คัน จนรถของผู้ก่อเหตุขับมาถึงวงเวียนศาลหลักเมืองขอนแก่น ซึ่งเจ้าหน้าที่วางกำลังสกัดจับและใช้อุปกรณ์ Stop Stick ซึ่งเป็นอุปกรณ์หยุดรถกรณีฉุกเฉิน ขวางรถผู้ก่อเหตุไว้ เมื่อรถผู้ก่อเหตุขับเหยียบผ่านไป ทำให้ยางรั่ว แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมหยุดรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแบ่งกำลังไล่ติดตามและวางกำลังในเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนี จนผู้ก่อเหตุขับรถเข้าไปในซอยสุภะภีระ เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำรถกระบะมาจอดขวางไว้ ผู้ก่อเหตุได้ขับรถพุ่งชนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถขับไปต่อได้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวผู้ขับขี่ไว้ได้ พบว่ายังอยู่ในอาการมึนเมายาเสพติด จึงคุมตัวและแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถผู้อื่นได้รับความเสียหาย,ขับขี่รถประมาทหวาดเสียว,ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย,ขับขี่รถชนแล้วหลบหนี และ ขับขี่รถโดยมีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยผิดกฎหมาย
จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา พบว่า เคยถูกตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น จับกุมในคดีจำหน่ายไอซ์ เมื่อปี 2561 ติดคุก 5 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน ก็กลับมาพัวพันกับยาเสพติดอีก จนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ญาติเคยขอกำลังเจ้าหน้าที่ รับตัวส่ง รพ.เมื่อเดือนที่ผ่านมา
ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาเสร็จสิ้นแล้ว และนำตัวส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น พร้อมคัดค้านการประกันตัว เพราะข้อหาที่แจ้งไว้ทั้ง 5 ข้อหา ถือเป็นการทำความผิดที่ร้ายแรง โดยเฉพาะการเสพยาเสพติด เมายาเสพติดแล้วออกมาขับรถ สร้างความเสียหายให้ประชาชน และสังคมเดือดร้อน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จะสืบสวนขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับไอซ์ มาดำเนินคดีตามกฏหมายด้วย ในส่วนของผู้เสียหายที่ผู้ต้องหาขับรถเฉี่ยวชนจนได้รับความเสียหาย ได้ประสานผู้เสียหาย ทยอยเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ก่อเหตุตามขั้นตอนแล้ว
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกนาย และสั่งให้ตำรวจภูธรภาค 4 ถอดบทเรียนเพื่อนำมาเป็นกรณีศึกษา พร้อมทั้งฝากความห่วงใยไปยังพื้นที่อื่นๆ ซึ่งมีโอกาสจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ได้ ให้ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุสม่ำเสมอ รวมทั้งตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลา
สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้อนุมัติงบประมาณให้แก่ศูนย์บริหารงานป้องกันปราบปราม โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ,พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้กำกับดูแล เพื่ออบรมเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุกหน่วยทั่วประเทศ เช่น
• โครงการฝึกอบรมการบริหารเหตุการณ์ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191
• โครงการฝึกอบรมการระงับเหตุของผู้ปฏิบัติงานสายงานป้องกันปราบปราม
• โครงการฝึกทักษะยิงปืนให้แก่ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสายงานป้องกันปราบปราม สืบสวน และจราจร ในสถานีตำรวจ
• โครงการฝึกอบรมการสร้างพื้นที่ข่าวออนไลน์ เป็นต้น
#เสพไอซ์คลุ้มคลั่ง
#จังหวัดขอนแก่น