นายแดเนียล ไฮเนส นักวิเคราะห์จากบริษัท ANZ Group Holdings เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงในวันนี้ หลังขยับขึ้นกว่าร้อยละ 2 เมื่อวันอังคาร ภายหลังจากซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย สองผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรซึ่งเรียกว่า กลุ่มโอเปกพลัส ประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันเมื่อวันจันทร์
โดยเทรดเดอร์ส่วนใหญ่จับดูเจ้าชายอับดุลลาซิส บิน ซัลมาน อัล ซะอูด รัฐมนตรีพลังงานแห่งซาอุดีอาระเบียที่จะขึ้นเวทีปราศรัยในที่ประชุม OPEC International Seminar ในกรุงเวียนนา ออสเตรียในวันนี้ ตามการรายงานของบลูมเบิร์ก ประเด็นที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่รอดูคือ ท่าทีเรื่องการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมจากกลุ่มโอเปกพลัส
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดกรุงลอนดอน อังกฤษ ร่วงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังขยับขึ้นเมื่อเมื่อวาน ซึ่งตรงกับวันหยุดเนื่องในวันชาติสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียจะลดการส่งออกน้ำมันลง 5 แสนบาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคมนี้ อยู่ที่ 9.5 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงสิ้นปี ขณะเดียวกัน ซาอุฯจะขยายการลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวันจากเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนสิงหาคมนี้ โดยรัฐมนตรีพลังงานแห่งซาอุดีอาระเบียระบุว่า ซาอุดีอาระเบียจะทำทุกมาตรการที่มีความจำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพให้กับตลาดน้ำมัน
บริษัทมอร์แกน สแตนลีย์ ผู้ให้บริการด้านการเงินชั้นนำของโลก ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาสำหรับน้ำมันดิบเบรนท์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ลงมาที่ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากเดิม 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังซาอุดีอาระเบียและรัสเซียแถลงเรื่องการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดังกล่าว พร้อมคาดว่า ตลาดน้ำมันของโลกจะเริ่มคลายตัวมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และจะเริ่มมีปริมาณน้ำมันเหลือเฟือในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า คาดว่าปริมาณน้ำมันดิบยังคงเข้าสู่ตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบร่วงในปีนี้ หลังการฟื้นตัวของจีนเริ่มอ่อนแรง ขณะเดียวกัน การที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯและกลุ่มสหภาพยุโรปปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ กระทบต่อการใช้น้ำมันเช่นเดียวกัน
#กลุ่มโอเปกพลัส