สุ่มตรวจ ATK ผู้ลี้ภัยบ้านพะแข่ แม่ฮ่องสอน ติดเชื้อ 10 กว่าราย ยังไม่เจอคลัสเตอร์

           การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในศูนย์ผู้ลี้ภัยบ้านพะแข่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน นพ.วรัญญู จำนงประสาทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า  มีการสุ่มตรวจ ATK อย่างต่อเนื่อง เฉพาะผู้ที่มีอาการทางเดินหายใจ โดยรวมพบผู้ติดเชื้อประมาณ 10 กว่าราย คิดเป็น 5% ของจำนวนคนที่ตรวจ เช่น เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 66  สุ่มตรวจไปประมาณ 10 กว่าราย พบผู้ติดเชื้อ 2 ราย ซึ่งการติดเชื้อโควิด 10 กว่ารายนั้น ก็เป็นลักษณะการติดเชื้อแบบกระจายๆ กันไป ไม่ได้มีลักษณะเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์  ผู้ที่ติดเชื้อก็ได้ให้มีการแยกกักเพื่อดูแลรักษาแล้ว ส่วนใหญ่อาการไม่มาก และได้เน้นย้ำเรื่องสุขอนามัยส่วนบุคคล ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปปฏิบัติงานในศูนย์พักพิงฯ นั้นก็ได้เน้นย้ำให้ป้องกันตัวตามปกติ รักษาระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ

          สถานการณ์ปัญหาสุขภาพและโรคชายแดนอื่นๆ ในศูนย์พักพิงฯ มีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไม่  นพ.วรัญญู กล่าวว่า มีการคัดกรองโรคติดต่อชายแดน ทั้งมาลาเรียและเท้าช้าง ไม่น่าเป็นประเด็นปัญหา ก็มีพบเชื้อมาลาเรียบ้างไม่มากนัก ซึ่งก็ได้ให้การรักษาตามปกติ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโรคมาลาเรียมียุงเป็นพาหะ ก็ได้เน้นย้ำให้ผู้คนภายในศูนย์พักพิงฯป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัดหรือฉีดพ่นฆ่าแมลงทุกสัปดาห์ เป็นกระบวนการดำเนินการตามมาตรการ ส่วนที่น่าจะมีปัญหา คือ สุขอนามัย น้ำกินน้ำใช้ และ ขยะ ถ้าเหตุการณ์ไม่ได้ยืดเยื้อก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการจัดการโดยองค์กรเอ็นจีโอและในส่วนของจังหวัด  กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ก็มีการสนับสนุนยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ยาสามัญประจำบ้าน ยาลดอาการเจ็บปวดต่างๆ เป็นต้น และการเจ็บป่วยทั่วไปเท่าที่ดูก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าเป็นห่วงว่าจะมีการระบาดของโรคที่ไม่เคยเจอ

         เรื่องของน้ำกินน้ำใช้น้ำดื่มไม่ค่อยมีปัญหาช่วงระยะสั้น เพราะมีอุปกรณ์กรองน้ำ มีน้ำดื่มบริจาคมาอยู่ แต่ในส่วนของการใช้ห้องน้ำ ห้องส้วม การกำจัดของเสียต่างๆ ก็มีห้องที่ทำไว้ชั่วคราวให้ห่างไกลแหล่งน้ำ หากระยะสั้นไม่น่ามีปัญหามากนัก เพราะปริมาณคนที่ใช้ก็อยู่ในจำนวนที่ควบคุมได้ หากสถานการณ์ยืดเยื้อระยะยาวขึ้นก็ต้องดูว่าทำอย่างไรให้น้ำดื่มน้ำใช้มีความถาวรมากขึ้น ส่วนฝ่ายความมั่นคงก็อาจจะต้องปรับจุดพักพิงให้เหมาะสมเพิ่มขึ้น ก็คงดูตามสถานการณ์อีกครั้ง

         จำเป็นต้องให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือวัคซีนอื่นๆ แก่ผู้พักพิงหรือไม่  นพ.วรัญญู กล่าวว่า ในส่วนของวัคซีนโควิด-19 ถ้าจะดำเนินการก็จะเป็นในส่วนของกลุ่มเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยรุนแรงคือกลุ่ม 608 ส่วนโรคอื่นๆ ตอนนี้ในระยะสั้น คาดว่า ยังไม่มีความจำเป็น เพราะยังเป็นผู้ที่มาอยู่ในพื้นที่ที่รอกลับบ้าน ถ้าไม่ได้อยู่ระยะยาวการฉีดวัคซีนตรงนี้คงไม่ได้จำเป็น ถ้าเป็นเด็กแรกเกิดที่สมมติมาเกิดตรงนี้ก็จะดำเนินการวัคซีนตามชุดที่ดำเนินการอยู่แล้ว

#สุ่มตรวจATK

#ผู้ลี้ภัยบ้านพะแข่

#แม่ฮ่องสอน   

CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ Hfocus