เจ้าหน้าที่สืบสวน ตำรวจนครบาล สามารถจับกุม นายยุทธนา มาดี (แจ๊บ) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหา ก่อเหตุ ใช้ไม้เบสบอลตีลูกบุญธรรมวัย 12 ปี เสียชีวิต ก่อนนำร่างยัดถังน้ำแข็ง และโบกปูนทับเพื่ออำพรางคดี ล่าสุด เพจ “สืบนครบาล IDMB” โพสต์ข้อความแจ้งว่า “สืบนครบาล , สืบ 2 และ สน.บางเขน รวบตัว นายยุทธนา ได้แล้ว หลังมีประชาชนแจ้งเบาะแสพบเจ้าตัวไปเปิดห้องพักย่านสุทธิสาร” มีรายงานว่า นายยุทธนา ถูกจับกุมได้ที่โรงแรมในซอยอินทามระ 34 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพ โดยขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม พบหญิงสาวอยู่ด้วยอีก 1 คน จึงเชิญตัว ไปสอบสวนที่สถานีตำรวจด้วย
ก่อนหน้านี้ น.ส.นิรมล หรือมินท์ อายุ 30 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ว่า นายยุทธนา หรือแจ๊บ อายุ 29 ปี สามี ได้ก่อเหตุฆาตกรรม ด.ญ.อริศสา หรือใหม่ อายุ 12 ปี ลูกบุญธรรม ก่อนจับยัดถังพลาสติกโบกปูนทับ หลังจากนั้นทั้งคู่ได้เดินทางเพื่อไปสารภาพกับญาติเด็ก แต่นายยุทธนา ออกอุบายว่าไปหาเพื่อน ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 01.00 น. วันที่ 2 ก.ค.66 จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้น พบ นายยุทธนา มาดี เคยมีประวัติการใช้ยาเสพติด ในข้อหาครอบครอง และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1
สำหรับในคดีนี้ เกิดขึ้น เมื่อตำรวจ สน.บางเขน รับแจ้งเหตุฆาตกรรม ภายในบ้าน ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนพหลโยธิน ซอย 48 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ จึงตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ภูมิพล ที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ประกอบกิจการรับจ้างแพ็คสินค้าใส่กล่องเพื่อส่งมอบให้บริษัทขนส่ง จากการตรวจสอบบริเวณครัวหลังบ้านชั้นล่าง พบถังพลาสติก ขนาด 200 ลิตร สีน้ำเงิน วางอยู่ใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างจาน เมื่อนำถังดังกล่าวออกมาเปิดดูพบมีการถมด้วยดินอยู่ชั้นบนสุด และชั้นรองลงมามีการโบกปูนทับ เมื่อควักดินและทุบทำลายปูนออก พบศพ ด.ญ.ใหม่ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี หลานสาวเจ้าของบ้าน ถูกฆ่านำศพยัดถังในสภาพเปลือยกาย มีถุงขยะสีดำและผ้าขนหนูสีชมพูห่อหุ้มร่างเอาไว้ นอกจากนี้ ยังบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งตามใบหน้าและร่างกายหลายแห่ง แพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 48 ชั่วโมง
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้ส่งร่างผู้เสียชีวิต ให้แพทย์นิติเวช นำไปผ่าชันสูตร อย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นได้ประสานให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวนายยุทธนา มาดำเนินคดี ส่วน น.ส.นิรมล ต้องรอผลสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นมากน้อยเพียงใด หากพบว่ามีพฤติกรรมร่วมกันกระทำความผิดก็จะแจ้งข้อหาดำเนินการในฐานะร่วมกันฆ่าฯ และร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ
#รวบพ่อเลี้ยง
#ฆ่าอำพรางคดี