การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 10.05 น. โดยมีวาระสำคัญ คือ การเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และ 2 โดยขั้นตอนการเลือกประธานรัฐสภา จะให้ ส.ส.ที่มีอายุมากที่สุด ซึ่งอยู่ในที่ประชุม เป็นประธานชั่วคราว ซึ่งก็คือ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อายุ 89 ปี ทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราว นำสมาชิกในที่ประชุม กล่าวคำปฎิญาณตนก่อน
จากนั้นให้ ส.ส.แต่ละคน มีสิทธิเสนอชื่อ ส.ส.ได้ 1 ชื่อ โดยต้องมี ส.ส.รับรองไม่น้อยกว่า 20 คน ส.ส.ที่ถูกเสนอชื่อจะต้องกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ หากเสนอชื่อเพียงคนเดียว ให้ถือว่าผู้ถูกเสนอชื่อนั้นเป็นผู้ได้รับเลือก ถ้าเสนอหลายชื่อให้ออกเสียงลงคะแนนเป็นการลับ ผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงจาก ส.ส.มากที่สุดในแต่ละตำแหน่ง จะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานและรองประธานสภาฯ เมื่อการเลือกจบแล้ว ให้แจ้งรายชื่อผู้ได้ดำรงตำแหน่งประธานและรองประธานสภาฯ ไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ
โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นเสนอเชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาฯ ซึ่งมีสมาชิกให้การรับรองครบตามจำนวนที่กำหนด และไม่มีสมาชิกรายอื่นเสนอชื่อผู้ใดชิงตำแหน่ง ประธานชั่วคราวจึงให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แสดงวิสัยทัศน์ โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ขอบคุณ ส.ส.ทุกคนที่ให้ความไว้วางใจในการทำหน้าที่สำคัญนี้ พร้อมให้คำมั่นว่า จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง น้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส.ต่อไป และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส สุจริต ตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และข้อบังคับของสภาทุกประการ โดยจะกำหนดแนวทางร่วมกันกับรองประธานสภาฯ 2 คน ในการพิจารณาร่างกฎหมาย ญัตติ อย่างเป็นธรรม เพื่อประโยชน์ประชาชน จะให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่ของกรรมาธิการฯ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และจะร่วมกับ ส.ส.ในการผลักดันนโยบายต่างประเทศของฝ่ายนิติบัญญัติ ผ่านความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพฝ่ายนิติบัญญัติ และพัฒนาประชาธิปไตยทุกภาคส่วนให้มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนต่อไป
หลังจากนั้น ประธานชั่วคราวได้ประกาศรับรองให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 และเป็นประธานสภาไทยเชื้อสายมุสลิมคนแรก
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ปัจจุบันอายุ 79 ปี เคยเป็นอดีต ส.ส.หลายสมัย ทั้งสังกัดพรรคกิจสังคม พรรคประชาธิปัตย์ พรรคความหวังใหม่ และพรรคไทยรักไทย พรรคประชาชาติ เคยดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 2 สมัย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยประธานสภาผู้แทนราษฎร จะทำหน้าที่เป็นประธานของที่ประชุมสภาฯ กำกับดูแลการดำเนินกิจการของสภาฯ ควบคุมการรักษาความสงบเรียบร้อยในที่ประชุมสภาฯ รวมถึงบริเวณสภาด้วย แต่งตั้งกรรมการเพื่อดำเนินกิจการใดๆ อันเป็นประโยชน์ต่อกิจการของสภาฯ รวมทั้งอำนาจและหน้าที่อื่นตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้หรือตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้
หลังจากนั้น ที่ประชุมเข้าสู่การเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขณะที่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 จึงให้ทั้ง 2 คน แสดงวิสัยทัศน์ ก่อนจะเข้าสู่การลงคะแนนลับ
โดยรองประธานสภาฯ จะทำหน้าที่ช่วยประธานสภาฯ ในกิจการอันเป็นอำนาจหน้าที่ของประธานสภาฯ,ปฎิบัติหน้าที่ตามที่ประธานสภาฯ มอบหมาย เมื่อไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ หรือมีแต่ไม่อยู่ หรือไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้ ,กรณีมีรองประธานสภาฯ 2 คน ให้รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เป็นผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนประธานสภาฯ,ถ้ารองประธานสภาฯ คนที่ 1 ไม่อยู่หรือไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานสภาฯ คนที่ 2 เป็นผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนประธานสภาฯ
#ประธานสภา
CR ขอบคุณภาพ เพจเฟซบุ๊ก วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา และเพจเฟซบุ๊ก พรรคประชาชาติ