*กรมข้าวเตรียมแจกพันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทาน/คลังหาปธ.สนง.สลากคนใหม่/ยึดทรัพย์เพิ่มเติมคดีแชร์ลูกโซ่*

ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 2558 ระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคมนี้ นายชาญพิทยา ฉิมพาลี อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ทางกรมการข้าวขอพระราชทานพันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทานในฤดูนาปี 2558 ทั้งข้าวนาสวนและข้าวไร่ที่มีคุณลักษณะและความโดดเด่นในด้านต่างๆ จำนวน 11 พันธุ์ รวมน้ำหนักเมล็ดพันธุ์ข้าวทั้งสิ้น 2,695 กก. โดยจัดแบ่งเป็น 3 แสนซอง สำหรับแจก เพื่อเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคลในการประกอบอาชีพทางการเกษตรตามประเพณีนิยม

ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำตามเขื่อนขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศเหลือ 42,171 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุน้ำในอ่างเก็บต่างๆ ทั้งหมด 70,326 ล้าน ลบ.ม. แต่ปริมาณน้ำที่ใช้ได้จริงๆ เหลือเพียง 18,668 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น ทำให้พื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งนายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งที่มาเร็วมาก ทำให้กระทรวงเกษตรฯประกาศงดการส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลอง รวม 26 จังหวัด ทำให้เกษตรกรลดเนื้อที่เพาะปลูกลง ส่งผลให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งน่าจะมีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน

เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปผลการดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557-เมษายน 2558 มีการจ้างแรงงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งแล้ว 38,694 คนโดยเป็นผู้ที่อยู่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา 36,662 คน และลุ่มน้ำแม่กลอง 7,032 คน จากเป้าหมาย 44,388 คน นอกจากนี้ยังมีการจัดฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร 9 หลักสูตร สนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชตระกูลถั่ว/พันธุ์พืชปุ๋ยสดในพื้นที่ 20 จังหวัด และส่งเสริมอาชีพด้านปศุสัตว์

ส่วนกรณีที่ นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งในวันนี้ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง จะเข้ารายงานและหารือกับนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้พิจารณาแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสมที่จะเข้ามาดูแลสำนักงานสลากฯ

ในวันนี้ ที่กรมศุลกากร จะมีการแถลงจับงาช้าง 500 กิ่ง 3.1 ตัน มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท

ส่วนเรื่องคดีบริษัทยูฟัน เมื่อวานนี้ พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเข้าตรวจค้นและอายัดทรัพย์สินผู้ต้องหาในเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ ตามหมายจับศาลอาญา โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้อายัดไว้ และเตรียมขายทอดตลาด เพื่อนำเงินที่ได้มาเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม เจ้าของทรัพย์สินยังสามารถนำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดนั้นได้มาด้วยความชอบธรรม

สำหรับการดำเนินคดีกับเครือข่ายบริษัทยูฟันนั้น ได้ออกหมายจับไปแล้ว 13 คน สามารถควบคุมตัวได้ 7 คน และอยู่ระหว่างหลบหนีอีก 6 คน

และคดีระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าบนเกาะสมุยพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ศาลจังหวัดยะลาได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิด เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา เพิ่มเติมอีกจำนวน 5 คน ได้แก่ นายอัสมีน กาเต็มมาดี อายุ 27 ปี สัญชาติไทย อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 6 ถ.นาเลกือ ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี นายฮากีม ดอเลาะ อายุ 31 ปี สัญชาติไทย อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 35/1 หมู่ 1 ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี นายมูหาหมัดยากี สาและ อายุ 34 ปี สัญชาติไทย อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 10 ต.บันนังสะตา อ.บันนังสะตา จ.ยะลา นายอับดุลเลาะ สาแม อายุ 25 ปี สัญชาติไทย อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ 4 ต.แหลมโพธ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี และนายอัมมัร แวดาราแม อายุ 27 ปี สัญชาติไทย อยู่บ้านเลขที่ 280 หมู่ 1 ต.ยามู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ในความผิดฐาน เป็นผู้ต้องสงสัยตามพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 11 (1) 

โดยผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 คนเป็นผู้นำรถมาใช้ก่อเหตุ ขับรถมาส่งให้ และร่วมอยู่ในขบวนการก่อเหตุระเบิด ต่อเนื่องจากการออกหมายจับนายอับดุลรอนิง ดือราเม หรือบังยี อายุ 51 ปี เจ้าของเต็นท์จำหน่ายรถยนต์มือสอง จ.ยะลา ผู้ต้องสงสัยตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากเป็นเจ้าของรถทั้ง 3 คันที่ใช้ในการก่อเหตุ

นอกจากนี้ ในการตรวจสอบรถยนต์ที่ถูกจอดทิ้งไว้ในป่าสวนยาง ริมถนนสายป่าบอน-หนองธง หมู่ 4 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง พบว่าเป็นรถที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยเกี่ยวกับคดี และน่าจะเป็นรถนำทางที่กล้องวงจรปิดจับเอาไว้ได้ ส่วนการตรวจสอบป้ายทะเบียนรถพบว่า เป็นป้ายทะเบียนที่ใช้อยู่ที่ อ.กงหรา จ.พัทลุง ทางเจ้าหน้าที่จะได้ประสานไปยังเจ้าของทะเบียนรถมาให้ข้อมูลต่อไป

*-*