หลังเกิดเหตุทางเลื่อนภายในสนามบินดอนเมือง ดูดขาผู้โดยสาร จนขาซ้ายขาด ในวันนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ (วสท.) ได้ลงตรวจสอบพื้นที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (30 มิ.ย.66) นายบุญพงษ์ กิจวัฒนาชัย ที่ปรึกษาคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมเครื่องยนต์ วสท. ระบุว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเมื่อช่วงเช้า พบว่า มีการแตกหักของแผ่นซี่หวี และมีชิ้นส่วนของซี่หวีแตกหักในลักษณะคล้ายเป็นรูปโค้งของวงกลม ซึ่งอาจจะเกิดจากการขัดกันระหว่างวัสดุสองชนิดในช่วงที่เกิดเหตุ ส่วนแผ่นพื้นทางเลื่อนที่หลุด ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และหล่นอยู่ที่ท้องของกล่องทางเลื่อนอัตโนมัติ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 เมตรซึ่งเป็นการหยุดโดยระบบเซ็นเซอร์หลังเกิดเหตุประมาณ 20 วินาที โดยลักษณะที่แผ่นทางเลื่อนหลุด พบว่า น็อตที่ล็อกแผ่นพื้น กับรางเลื่อนขาด
ด้านสาเหตุสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากการที่มีวัสดุตกหล่นไปขัดอยู่บริเวณปลายหวี และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ล้อกระเป๋าเดินทางไปติดอยู่ที่ปลายหวีนั้นด้วย เมื่อล้อของกระเป๋าเดินทางไม่สามารถเคลื่อนตัวต่อไปได้ จึงเกิดการขัดตัวกัน จนกระทั่งปลายหวีแตกหักและหลุดเข้าไปในระบบทางเลื่อนอัตโนมัติ ทำให้ ง้างแผ่นพื้นทางเลื่อน จนกระดกทำให้น็อตที่ล็อคแผ่นพื้นกับรางเลื่อนขาด ทางเลื่อนจึงเอียงตัว ทำให้มีช่องว่างกว้างเพียงพอ ที่จะทำให้ขาของผู้บาดเจ็บที่กำลังก้าว หล่นลงไปในช่องว่าง ขณะที่ทางเลื่อนยังทำงาน ตามปกติ ทำให้เกิดการบาดเจ็บ
โดยก่อนเกิดเหตุพบว่า ข้อมูลของการบำรุงรักษา ซึ่งผู้ทำการตรวจความปลอดภัย หรือ QA ของระบบบันไดเลื่อนทั้งหมด รวมถึงทางเลื่อนอัตโนมัติได้รับรองความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ไว้แล้ว ไม่มีซี่หวีแตกหัก อุปกรณ์ไม่มีความร้อนหรือทำงานผิดปกติ นอกจากนั้นในการใช้งาน เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาจะต้องตรวจสอบการทำงานของระบบก่อนการเปิดใช้งานทุกวัน จึงมีเอกสารหลักฐานยืนยันว่าบันไดเลื่อนและทางเลื่อนอัตโนมัติมีการทำงานปกติ
ผู้เชี่ยวชาญของ วสท. ระบุว่า แผ่นซี่หวีปกติจะมีช่องว่างประมาณ 0.4 มิลลิเมตร ปกติจะไม่สามารถดูดสิ่งใดเข้าไปได้ เว้นแต่ซี่หวีจะหลุดออกเป็นช่องว่าง ส่วนบันไดเลื่อนและทางเลื่อน ปัจจุบันไทยยังไม่สามารถผลิตเองได้ ยังต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ และใช้ผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งดูแลรักษา และเทคโนโลยีของบันไดเลื่อนกับทางเลื่อนอัตโนมัติ จะมีการปรับปรุงพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ยังต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมข้อมูลต่างๆอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุและหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก พร้อมแนะนำผู้โดยสารที่มีกระเป๋าเดินทาง ขณะใช้ทางเลื่อน ไม่ควรเอากระเป๋าไว้ข้างหน้า เพราะจะมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดทางเลื่อน ควรเอาไว้ด้านข้าง หรือด้านหลัง เมื่อถึงจุดสิ้นสุดทางเลื่อนแล้ว ควรยกกระเป๋าข้ามเส้นสีเหลือง
ส่วนประชาชนทั่วไปที่ใช้บันไดเลื่อนหรือทางเลื่อนต่างๆ ก็ฝาก 4 ข้อควรระวัง คือ
1.ต้องมีสติ
2. งดหรือหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ระหว่างใช้บันไดเลื่อนหรือทางเลื่อน
3. เอามือจับราวเสมอเมื่อใช้งานบันไดเลื่อนหรือทางเลื่อน เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ จะช่วยลดความรุนแรงได้
4. ถ้ามีเสียงดังผิดปกติ ให้งดใช้ทางเลื่อนหรือบันไดเลื่อน
โดยทางเลื่อนพื้นราบ กับบันไดเลื่อน จะมีอุปกรณ์การทำงานที่คล้ายกัน แตกต่างกันที่มุมที่วัดจากแนวระนาบสำหรับทางเลื่อนอัตโนมัติจะไม่เกิน 11 องศา เพื่อให้แผ่นพื้นเรียบ หากมุมจากแนวระนาบเกินกว่านี้ จะต้องทำแผ่นพื้นให้เป็นขั้นบันไดเลื่อน
ส่วนอีกข้อแตกต่าง คือ การรับน้ำหนักทางเลื่อนอัตโนมัติ 1 แผ่น สามารถรับน้ำหนักได้ 160 กิโลกรัม ขณะที่บันไดเลื่อนจะออกแบบให้รับน้ำหนักที่ 75 กิโลกรัมต่อคน นอกจากนี้ทั้งทางเลื่อนและบันไดเลื่อน จะมีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล EN 115 เช่น ปุ่มกดหยุดที่อยู่ด้านล่างราวจับ , ปุ่มสวิตช์กุญแจ , ช่องทางเข้าของราวจับ หากมีคนเอานิ้วแหย่เข้าไปหรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป เครื่องจะหยุดโดยอัตโนมัติ หรือหากไฟฟ้าที่ป้อนเข้าไปไม่สม่ำเสมอ ทางเลื่อนหรือราวจับเลื่อนด้วยความเร็วผิดปกติ ระบบก็หยุดทำงานเช่นกัน ส่วนอายุการใช้งานของทางเลื่อนและบันไดเลื่อนจะมีอายุประมาณ 45 ปี
#ทางเลื่อนดอนเมือง
#วสท