*ปธ.สภาเกษตรจ.จันทบุรี ร้องสนช. ขาดแคลนแรงงานประมง*

 การติดตามรับฟังสภาพปัญหาของประชาชน ของนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. คนที่ 2 พร้อมด้วยสมาชิก สนช. และคณะ ในโครงการ สนช.พบประชาชน วันที่ 2นี้ มาพบประชาชนที่จังหวัดจันทบุรี ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี จากการรับฟังปัญหาที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือนร้อนในขณะนี้ คือ การขาดแคลนแรงงาน และอยากให้หน่วยงานของรัฐส่งเสริมการส่งออกพืชผลทางการเกษตรของจังหวัดจันทบุรี ซึ่งถือว่าเป็นแห่งผลิตพืชผลทางการเกษตรหลักในการส่งออกของประเทศ

นายธีระ วงษ์เจริญ ประธานสภาเกษตรกร จังหวัดจันทบุรี รายงานปัญหาในพื้นที่ว่า ตอนนี้ภาคการเกษตร และประมงในพื้นที่ก็ประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงานต่างด้าว จากกัมพูชา เพราะในช่วงเวลาปกติจากเดิมจะมีแรงงานต่างด้าวทั้งที่ขึ้นทะเบียนและไม่ขึ้นทะเบียนซึ่งจะใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราวเข้ามาทำงานในจังหวัดประมาณปีละ30,000คน แต่ปัจจุบันแรงงานต่างด้าวมีจำนวนลดลงเพราะมีข้อห้ามที่เข้มงวดมากขึ้น อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้ไม่ว่าจะทางกฎหมาย หรือทางปฎิบัติ เช่น ช่วยขยายเวลาการเข้ามาทำงานของต่างด้าวชาวกัมพูชา หรือผ่อนปรนการขยายขอบเขตการจำกัดพื้นที่การทำงานของแรงงานต่างด้าว ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด เพราะจากเดิมอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวทำงานเพียง 2อำเภอ ของจังหวัดจันทบุรีเท่านั้น คืออำเภอสอยดาว และอำเภอโป่งน้ำร้อน  อยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ไขปัญหานี้

ในภาคการค้าการเกษตร จังหวัดจันทบุรีมีรายได้จากการส่งออกผลผลิตทางการเกษตรปีละกว่า 25,000ล้านบาท โดยมีทั้งการส่งออกทางเครื่องบิน และส่งผ่านด่านชายแดนไปยังประเทศกัมพูชา ลาว เวียดนาม และไปยังประเทศจีน ตอนใต้ เพื่อกระจายไปยังประเทศอื่นๆต่อไป จึงอยากให้มีการส่งเสริมพื้นที่การค้าตามแนวชายแดนในอำเภอโป่งน้ำร้อน ให้ดำเนินการจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อพัฒนาทางด้านการค้าขายตามแนวชายแดนให้มีการเจริญเติบโต เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดจันทบุรีมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงเป็นการเพิ่มช่องทางการส่งออกของประเทศอีกหนึ่งช่องทาง

ด้านนายพิชิต นิลทองคำ ผู้อำนวยการสำนักบริหารแรงงานต่างด้าวกรมจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ชี้แจงว่า  การแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวมีความจำเป็น ซึ่งรัฐบาลก็ให้ความสำคัญ แต่ต้องมีการดูแลควบคุมแรงงานเหล่านี้ให้เป็นขั้นตอน ซึ่งรัฐบาลได้เปิดให้ขึ้นทะเบียบแรงงานต่างด้าวแล้ว ซึ่งมีมาขึ้นทะเบียนทั้งหมดกว่า 1,600,000 คน แต่ในส่วนของข้อเรียกร้องต่างๆ จากกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ที่ต้องการให้มีการแก้ไขเรื่องนี้ ขณะนี้กระทรวงฯที่เกี่ยวข้องกำลังทำอยู่  แต่ในส่วนของการขอขยายพื้นที่การเข้ามาทำงานของแรงงานต่างด้าวจากกัมพูชาให้สามารถขยายพื้นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัดจันทบุรี  กระทรวงมหาดไทยกำลังปรับแก้ไข เพื่อเสนอต่อ คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ให้พิจารณาแล้ว  ซึ่งคาดว่าถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาดคงใช้เวลาอีก 2-3เดือน หรือช่วงกลางปี ก็คงแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้บางส่วนได้สำเร็จหลังการรับฟังข้อเสนอแนะ ร้องเรียนจากประชาชน ของจังหวัดจันทบุรี นายพีระศักดิ์รับจะนำข้อร้องเรียนจากภาคประชาชนนำเสนอต่อห้หน่วยงาน หรือฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปแก้ไขต่อไป

ต่อจากนั้นไปดูงานการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตร ที่โรงอบไอน้ำและตัดแต่งผลไม้ ของสหกรณ์การเกษตรท่าใหม่ ในพื้นที่ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งโรงงานดังกล่าว เป็นโรงงานอบไอน้ำที่อบมะม่วงน้ำดอกไม้ทอง และรมยามังคุด เพื่อทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคผลไม้ รวมถึงบรรจุก่อนส่งออกไปต่างประเทศ ที่มียอดการส่งออกปีละกว่า 1,000ตัน