‘พิธา’ นำ 149 ส.ส.ก้าวไกล รายงานตัวที่สภาฯ มั่นใจตั้งรัฐบาลไม่สะดุด

           วันนี้ (27 มิ.ย.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล นำ ส.ส.พรรคก้าวไกล 149 คน เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยเดินทางมาที่รัฐสภาพร้อมกันด้วยรถบัส โดยมีพนักงาน ข้าราชการสภาฯ นักศึกษาฝึกงาน มาติดตามเฝ้าดูบรรยากาศและขอถ่ายรูปกับ ส.ส.ก้าวไกลด้วย

         นายพิธา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารายงานตัวว่า ตัวเลข ส.ส.ไม่สำคัญเท่ากับการตั้งใจเข้ามาเป็น ส.ส.ให้สมกับที่ประชาชนเลือกตั้งมา ซึ่งพรรคมีกฎหมายสำคัญเพื่อประชาชนหลายฉบับ เช่น กฎหมายเพื่อกลุ่มหลากหลายทางเพศ,กฎหมายเพื่อกลุ่มผู้ใช้แรงงาน,กลุ่มชาติพันธุ์ เป็นต้น และยังมีอีกหลายเรื่องที่เคยพยายามทำในสภาฯชุดที่แล้ว แต่ถูกปัดตกไป

          ส่วนสาเหตุที่เดินทางมารายงานตัวในวันที่ 27 มิ.ย. นายพิธา ระบุว่า มีหลายเหตุผล  อย่างแรกคือ ตนติดโควิด จึงมารายงานตัวก่อนหน้านี้ไม่ได้  และอีกหนึ่งเหตุผล คือ วันที่ 27 มิ.ย. เป็นวันที่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศไทย ถือเป็นวันที่มีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ชาติไทย

           นายพิธา ยังระบุว่า ไม่กังวลกับ ส.ว.หลายคนที่ออกมาแสดงจุดยืนว่าจะไม่โหวตให้เป็นนายกฯ  เพราะเชื่อว่า ส.ว.มีดุลพินิจและยึดหลักการ บรรทัดฐานในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมาก มั่นใจว่า ส.ว.250 คน จะยึดหลักการการโหวตนายกรัฐมนตรีแบบเดียวกับที่ดำเนินการไว้เมื่อปี 2562 และเชื่อว่า คงไม่มีใครต้องการฝืนมติจากประชาชน จึงไม่มีอะไรน่ากังวล  มั่นใจว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนที่เพียงพอ  พร้อมยืนยันว่า พรรคก้าวไกลจะพูดคุยทำความเข้าใจกับ ส.ว. ทลายกำแพง และสร้างความเข้าใจระหว่าง 2 สภา

          ส่วนกรณีที่ ส.ว.อาจจะยังคาใจกับการแก้ไขมาตรา 112 นายพิธา ระบุว่า การแก้ไขดังกล่าว ทางพรรคได้พูดไว้ก่อนการเลือกตั้งชัดเจน ว่าเป็นการหาทางออกให้สังคมไทย  เพราะช่วงที่ผ่านมามีการใช้มาตราดังกล่าวเป็นเครื่องมือทางการเมืองรังแกคนเห็นต่าง  จึงไม่เป็นผลดีกับสถาบัน พร้อมย้ำว่า การแก้ไข คือ การแก้ไข ไม่ใช่ยกเลิก  ซึ่งเท่าที่ได้พูดคุยกับ ส.ว.พบว่าหลายคนเข้าใจมากขึ้นว่าการรักษาปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับประเทศไทยที่กำลังเปลี่ยนผ่าน  จึงเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะไม่เป็นเหตุให้เส้นทางการจัดตั้งรัฐบาลสะดุด รวมทั้งไม่กังวลกับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีประเด็นพิจารณาคำร้องเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล เพราะเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญกับอัยการสูงสุด การแก้ไขกฎหมายฉบับหนึ่งไม่เท่ากับการล้มล้างการปกครองตามที่กล่าวหา และคิดว่าข้อกล่าวหานี้เกินจริงไปมาก ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลมีความตั้งใจที่จะรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างหนักแน่น

            ขณะที่ ข้อสรุปของตำแหน่งประธานสภาฯ นายพิธา ระบุว่า ขอให้รอการประชุมร่วมกับพรรคเพื่อไทยในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะมีการแถลงรายละเอียดเรื่องดังกล่าวด้วย

#พิธาลิ้มเจริญรัตน์

#พรรคก้าวไกล

#รายงานตัวสส