กลต.-DSI-ปอศ. เดินหน้าคดี 'STARK' อดีตผู้บริหาร เชื่อมโยงคดีฉ้อโกง

26 มิถุนายน 2566, 20:22น.


          การดำเนินคดีผู้กระทำความผิดกรณี บมจ. สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ในวันนี้ หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI          รับเป็นคดีพิเศษ จากการสืบสวนเบื้องต้นมีมูลเชื่อว่า มีการกระทำผิดของกรรมการ หรือ ผู้บริหาร หรือบุคคลอื่นใด เกิดขึ้น ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งพฤติการณ์มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุนและระบบเศรษฐกิจการคลังของประเทศ



          ก่อนหน้านี้ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้สืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมาย หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทได้รับทราบจากหนังสือของผู้สอบบัญชีรายบริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด ว่า



          ผู้สอบบัญชีได้ตรวจพบพฤติการณ์อันควรสงสัยในประเด็นการดำเนินงานและได้ปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการผู้จัดการ และหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทตามนัยมาตรา 89/25 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2565 เบื้องต้น DSI พบหลักฐานที่เชื่อได้ว่า มีอดีตผู้บริหาร STARK อย่างน้อย 3 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกรณี STARK ในข้อหาฉ้อโกง และกระทำผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์



          ขณะที่ล่าสุด DSI ได้ขอข้อมูลไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โดย ตม.ระบุว่า บุคคลทั้ง 3 รายไม่ได้มีการเดินทางออกนอกประเทศ แต่ DSI ไม่อาจยืนยันได้ว่าบุคคลดังกล่าวได้หลบหนีออกนอกประเทศผ่าน ‘ช่องทางธรรมชาติ’ หรือไม่



          นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า STARK เป็นโฮลดิ้งคอมพานี มีบริษัทย่อยทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม ทำธุรกิจผลิตไฟฟ้าและสายเคเบิล เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯปี 2562 ในลักษณะ Back-door Listing โดยในช่วงปี 2562-64 ไม่เกิดเหตุการณ์อะไรที่แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติ เพราะงบการเงิน ‘ไม่มีเงื่อนไข’ แต่ในช่วงไตรมาส 4/2565 บริษัท STARK นำส่งงบการเงินล่าช้า



          นางสิริพร จังตระกุล เลขาธิการสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย กล่าวว่า หลังจากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เปิดให้ผู้เสียหายจากการลงทุนหุ้นสามัญ STARK เข้ามาลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 19-25 มิ.ย.2566 ปรากฏว่าเบื้องต้นมีผู้มาลงทะเบียน 1,759 คน มูลค่าความเสียหายที่ลงทะเบียน 4,063 ล้านบาท



          ก่อนหน้านี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยว่า พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้อนุมัติให้รับกรณีการตรวจพบความผิดปกติของงบการเงินของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) เป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 จากการสืบสวนเบื้องต้นมีมูลเชื่อว่า มีการกระทำผิดของกรรมการ หรือ ผู้บริหาร หรือบุคคลอื่นใด เกิดขึ้น ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งพฤติการณ์มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุนและระบบเศรษฐกิจการคลังของประเทศ



          อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน  ซึ่งในวันนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ประชุมร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในการดำเนินการร่วมกันด้านการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลงโทษผู้กระทำความผิด ซึ่งกรณี STARK ซึ่งอยู่ในกระบวนการการบังคับใช้กฎหมายโดยเป็นไปตามขั้นตอนปกติ



          อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. ได้เร่งดำเนินการกับกรณีนี้อย่างเต็มที่ เนื่องจาก เป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ลงทุนเป็นจำนวนมากและอาจมีผลกระทบต่อตลาดทุนในภาพรวม นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้ประสานงานกับ DSI และ ปอศ. เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง DSI ได้รับกรณีดังกล่าวเข้าเป็นคดีพิเศษแล้ว ซึ่ง ก.ล.ต. มีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนการปฏิบัติงานของ DSI อย่างเต็มที่ต่อไป



          สำหรับการร่วมประชุมในครั้งนี้ ทั้ง 3 หน่วยงานได้แลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งหารือเกี่ยวกับแนวทางการทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดที่ทำได้อย่างรวดเร็วและรัดกุมและช่วยยับยั้งความเสียหายต่อประชาชนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น หลังจากนี้จะมีการประสานงานเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันต่อไปอีกด้วย



 



 



#STARK



#ฉ้อโกง

ข่าวทั้งหมด

X