ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต)แถลงระหว่างการเยือนกรุงวิลนีอุส ลิทัวเนียในวันนี้ว่า การพยายามก่อการกบฏ โดยนายเยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้าง Wagner ของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน แม้จะเป็นเรื่องกิจการภายในของรัสเซีย แต่อีกด้านหนึ่ง แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย บกพร่องร้ายแรงในการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะการตัดสินใจ บุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบเมื่อต้นปีที่แล้วและการผนวกอ่าวไครเมียของยูเครนเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่ง ซึ่งละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
นายสโตลเทนเบิร์ก กล่าวว่า ตราบที่รัสเซียยังคงเดินหน้ารุกรานยูเครน มีความจำเป็นที่นาโตจะยังคงให้การสนับสนุนแก่ยูเครนอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ชื่นชมกองทัพยูเครนที่ใช้วิธีโต้กลับและสามารถยึดคืนดินแดนจากรัสเซีย ระบุว่ายิ่งยูเครนยึดดินแดนคืนมาได้มากเพียงไร ก็จะยิ่งทำให้ยูเครน มีความเข้มแข็งและได้เปรียบมากขึ้น เมื่อถึงเวลานั่งโต๊ะเจรจาต่อรองกับรัสเซีย เพื่อให้บรรลุสันติภาพที่เป็นธรรมและยั่งยืนสำหรับยูเครน
นายสโตลเทนเบิร์ก กล่าวว่า เมื่อสงครามในยูเครนสิ้นสุดลง นาโตจะเสนอข้อตกลงเพื่อรับประกันความมั่นคงให้กับยูเครน เพื่อไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยคือ การถูกรัสเซียรุกรานในอนาคต เพิ่มเติมว่า พันธมิตรนาโตอยู่ระหว่างเฝ้าติดตามสถานการณ์ในเบลารุส เพื่อนบ้านของรัสเซีย พร้อมประณามรัสเซีย กรณีเคลื่อนย้ายอาวุธนิวเคลียร์ไปประจำยังเบลารุส ระบุว่า เป็นการกระทำที่ไม่รอบคอบและไร้ความรับผิดชอบ เขากล่าวว่าแม้จะไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่า รัสเซียเตรียมใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีสมาชิกนาโต แต่นาโตจะยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์เรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
นายสโตลเทนเบิร์ก กล่าวว่า ถ้ารัสเซียคิดว่า รัสเซียสามารถจะโจมตีเพื่อสกัดกั้นไม่ให้นาโตเข้าไปสนับสนุนแก่ยูเครน เขาคิดว่ารัสเซียประเมินสถานการณ์ผิดพลาด ย้ำว่า นาโตจะอยู่เคียงข้างยูเครนไปจนกว่ามีชัยชนะในการสู้รบกับรัสเซีย
#นาโต
#กบฏในรัสเซีย
#ปูตินบกพร่อง
#เชิงยุทธศาสตร์