หลังจากนายเยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ (Wagner)ของรัสเซีย พยายามก่อการกบฏเมื่อเช้ามืดของวันที่ 24 มิถุนายน 2566 เข้ายึดค่ายทหารในเมืองรอสตอฟ-ออน-ดอน ทางภาคใต้ของรัสเซีย พร้อมเคลื่อนกำลังนักรบกลุ่มแวกเนอร์มุ่งหน้าไปที่กรุงมอสโก แต่ในช่วงเย็นวันเดียวกัน เขาเปลี่ยนใจอย่างกะทันหัน สั่งให้ยุติการเคลื่อนพลเข้าไปในกรุงมอสโก และกลับเข้าไปในพื้นที่ชายแดนยูเครน-รัสเซีย เพื่อเลี่ยงเหตุนองเลือดในประเทศ พร้อมประกาศจะไปลี้ภัยในเบลารุส ประเทศเพื่อนบ้าน
รอยเตอร์ รายงานว่า ประธานาธิบดียูเครน นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี และนายโอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน เปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ และ พันธมิตรของยูเครน รวมถึงประธานาธิบดีอันด์แซย์ ดูดาของโปแลนด์ เพื่อหารือสถานการณ์ทางการเมืองในรัสเซีย โดยเฉพาะจุดอ่อนในการบริหารประเทศของรัฐบาลประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย และแผนการโต้กลับในระยะต่อไปของยูเครน
นายเซเลนสกี กล่าวภายหลังพูดคุยกับนายไบเดนว่า พวกเราได้พูดคุยเรื่องกระแสต่อต้านรัฐบาลที่เกิดขึ้นในรัสเซีย เพิ่มเติมว่าทุกประเทศทั่วโลกจะต้องร่วมกันกดดันรัสเซียไปจนกว่ากฎกติการะหว่างประเทศได้รับการฟื้นฟูตามปกติ นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองได้หารือเรื่องการขยายความร่วมมือด้านอาวุธ โดยเฉพาะการช่วยเหลือด้านอาวุธที่โจมตีได้ในระยะไกลๆ และการประสานความร่วมมือต่างๆก่อนที่เดือนกรกฎาคม 2566 จะมีการประชุมสุดยอดของผู้นำจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)ในกรุงวิลนิอุส ลิทัวเนีย
ด้านทำเนียบขาว ระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้นำทั้งสองได้หารือเรื่องยุทธวิธีการโต้กลับที่ยูเครนดำเนินการอยู่ในปัจจุบันเพื่อชิงดินแดนคืนมาจากยูเครน ขณะเดียวกัน นายไบเดน ย้ำจุดยืนของสหรัฐฯเรื่องการสนับสนุนยูเครนในทุกๆด้าน รวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์
นายเซเลนสกี ระบุว่า เมื่อวานนี้ (25 มิถุนายน 2566) ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา เพื่อหารือเรื่องสถานการณ์ที่คุกคามความมั่นคงในยูเครน โดยเฉพาะโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เมืองซาปอริซเซียทางภาคใต้ของยูเครน ก่อนหน้านี้ นายเซเลนสกี เตือนว่า รัสเซียอาจจะลงมือก่อการร้าย รวมถึงการปล่อยสารกัมมันตภาพรังสีจากโรงไฟฟ้า แต่รัสเซียปฏิเสธ
#ผู้นำยูเครนหารือพันธมิตร
#เหตุกบฏในรัสเซีย