สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียรายงานว่า มาเลเซียสั่งดำเนินคดีผู้ต้องหาสัญชาติไทย 4 รายวันนี้ (23 มิ.ย.) ในคดีลักลอบขนคนเข้าเมืองผิดกฎหมายจากเมียนมา ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับคดีเมื่อปี 2558 ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานงานตำรวจมาเลเซีย ส่งตัวผู้ต้องหาค้ามนุษย์ 4 ราย ตามสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน จากเหตุการณ์ในเดือน พ.ค.58 เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารพบศพผู้เสียชีวิตและศพที่ถูกฝังไว้รวมกันกว่า 30 ศพ บริเวณแคมป์คนงานกลางป่าบนเขาแก้ว ในพื้นที่หมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์อ.สะเดา จ.สงขลา และยังขยายผลพบหลุมศพในพื้นที่รัฐปะลิส ประเทศมาเลเซียอีกจำนวน 180 ศพ จากการสืบสวนทราบว่า ทั้งหมดเป็นศพของชาวโรฮิงญา ที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักร และหลบซ่อนบริเวณค่ายกักกันดังกล่าว เพื่อรอส่งต่อไปยังประเทศที่สาม
โดยการจับกุมและดำเนินคดีผู้ต้องหาซึ่งมีผู้ร่วมขบวนการทั้งทหาร ตำรวจ และนักการเมือง ท้องถิ่นจำนวนมาก รวมทั้งยังมีการดำเนินคดีค้ามนุษย์ที่สหพันธรัฐมาเลเซียอีกด้วย ซึ่งทางการมาเลเซียได้มีการออก หมายจับและหมายแดงตำรวจสากล รวมทั้งประสานงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหา ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย
1. นายสมพล อาดำ สัญชาติไทย
2. นายบุญเย็น นีซาละห์ สัญชาติไทย
3. นายอรุณ แก้วฟ้านอก สัญชาติไทย
4. นายเจ๊ะปา ลาปีอี สัญชาติไทย
สำหรับ ชายทั้ง 4 คนถูกส่งมาจากประเทศไทยเมื่อวานนี้ และถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์และต่อต้านการลักลอบขนคนเข้าเมืองปี 2550 จากการลักลอบพาชาวเมียนมา 2 คนเข้ามายังมาเลเซียโทษจำคุกสูงสุด 15 ปีและเสียค่าปรับ ศาลมาเลเซียไม่อนุญาตให้ประกันตัวและไม่มีบันทึกคำร้องจากผู้ต้องหาสัญชาติไทยแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ ทางการมาเลเซียระบุว่า พวกเขาเป็น 4 ใน 10 คนไทย ที่ทางการมาเลเซียได้ร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนตั้งแต่ปี 2560 ในฐานะส่วนหนึ่งของการสอบสวนเกี่ยวกับค่ายในเขตชายแดน จากการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นทางการของมาเลเซียที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2562 พบว่ามีจุดบกพร่องในการลาดตระเวนชายแดนของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ทางมาเลเซียได้ข้อสรุปว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ผู้ใช้กฎหมาย ข้าราชการ หรือคนในพื้นที่ของมาเลเซียเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือการลักลอบขนผู้อพยพ
#ค้ามนุษย์
#ไทยส่งผู้ค้าข้ามแดน