สนช.รับฟังปัญหาคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่งในจังหวัดตราด

ในการที่นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 พร้อมด้วยสมาชิก สนช. และคณะ เพื่อติดตามรับฟังปัญหาของประชาชน ในโครงการ สนช. พบประชาชน ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการลงพื้นที่เป็นการติดตามศึกษาสภาพปัญหาคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ในพื้นที่ของตำบลบางปิด อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ซึ่ง นายประธาน สุรกิจบวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดตราดมีภูมิประเทศติดทะเล อยู่ในฝั่งอ่าวไทย โดยบางช่วงของพื้นที่เป็นทะเลเปิด ไม่มีหมู่เกาะเล็กๆ รับแนวคลื่น จึงทำให้บางพื้นที่ชายฝั่งประสบถูกคลื่นทะเลกัดเซาะ โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุม แต่จังหวัดก็มีการติดตามเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ที่ประสบปัญหามาตลอด เช่น การปลูกป่าชายเลนในพื้นที่ตามแนวริมฝั่ง แต่ด้วยความที่ไม่มีแนวกันคลื่น ก็ทำให้ป่าชายเลนที่ปลูกถูกทำลาย จึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีด้วยการปักไม้ไผ่เป็นแนวชะลอความแรงของคลื่นไว้  ส่วนพื้นที่หลังแนวไม้ไผ่ เมื่อมีดินตะกอนสะสมกันเป็นพื้นดิน ก็ค่อยปลูกป่าชายเลน เพื่อให้เป็นแหล่งสะสมตะกอนดินอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล แต่ในส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวในอนาคต ก็อาจจะต้องของบประมาณจากภาครัฐ เพื่อดำเนินการก่อสร้างแนวกันคลื่นคอนกรีตถาวร เพื่อป้องกันในระยะยาว ซึ่งขณะนี้พื้นที่ของจังหวัดตราดก็มี 2 พื้นที่ ที่จะต้องเร่งดำเนินการในระยะสั้นก่อน คือ ชายฝั่งในตําบลแหลมกลัด อำเภอเมืองตราด และที่ตำบลบางปิด แห่งนี้

ด้านนายพีระศักดิ์ ระบุว่า เบื้องต้นจะให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องและคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำกลับไปหารือ เพื่อวางแนวทางการแก้ไขปัญหา ก่อนที่จะประสานกลับมายังหน่วยงาน และชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อวางแนวทางให้นำไปดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป

ด้านนายวรรณชัย บุตรทองดี ผู้อำนวยการสำนักวิศวกรรม ของกรมเจ้าท่า ก็รายงานว่า การแก้ไขปัญหาในระยะสั้นก็จะต้องปักไม้ไผ่เพื่อเป็นแนวกันคลื่น และปลูกป่าเพื่อคืนพื้นดินชายฝั่งก่อน ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว อย่างไรก็จะต้องศึกษาผลกระทบ ในภาพรวม เพื่อดำเนินการแก้ไขระยาวเพื่อให้การแก้ไขปัญหามีความมั่นคง และยั่งยืน

...ผสข.วิรวินท์ ศรีโหมด