พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 (ผบก.ตม. 1)เปิดเผยว่า เมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. 66 กก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้รับเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแสจากประชาชน ทางโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับแก๊งชาวต่างชาติลักลอบเร่ขายสินค้า รวมถึงเปิดแผงค้าขายอาหาร เครื่องดื่ม แย่งอาชีพคนไทย โดยเฉพาะย่านธุรกิจสำคัญ กลางกรุงเทพฯ จึงได้เรียกประชุมชุดสืบสวนเป็นการเร่งด่วน และสั่งการให้ พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผบก.ตม.1 (รักษาราชการแทน ผกก.สืบสวนฯ) และ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.ฯ กำหนดพื้นที่ถ.สุขุมวิทช่วงต้น ซึ่งเป็นย่านที่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.ตม.1 ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบบริเวณ ถ.สุขุมวิท ในซอย 11 โดย ดำเนินการปิดปากซอยและท้ายซอย สามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวได้หลายราย เร่ขายผลไม้ อาหาร และเสื้อผ้าโดยใช้รถเข็น หรือแผงลอยแบบชั่วคราว เป็นสัญชาติเมียนมา 9 คน กัมพูชา 2 คน ลาว 1 คน เวียดนาม 1 คน และบุคคลซึ่งไม่มีสถานะทางทะเบียน 1 คน นอกจากนี้เชื่อมโยงถึงนายจ้างคนไทย จับกุมดำเนินคดีข้อหา รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 2 คน รวมผู้ต้องหาทั้งสิ้น16 คน
ทั้งนี้ผู้ถูกจับบางรายไม่สามารถแสดงเอกสารหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงานให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ บางรายมีหนังสือเดินทางแต่การอนุญาตสิ้นสุด หรือได้รับการผ่อนผันการตรวจลงตราให้เดินทางเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามการเร่ขายสินค้านั้นเป็นงานต้องห้าม คนต่างด้าวไม่สามารถทำได้ เป็นความผิดตาม มาตรา 8 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 สำหรับตัวบุคคลต่างด้าวมีโทษปรับ 5,000-50,000 บาท ส่วนนายจ้างจะมีโทษปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท
#ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
#จับต่างด้าว