การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะเปิดให้เอกชนได้ร่วมลงทุนในโครงการใหญ่ 2 โครงการ คือ
1.โครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษบริเวณบางโปรง
2.โครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษ และ Park and Ride บริเวณข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
โดยวันนี้ (23 มิ.ย.66) กทพ.เชิญผู้ประกอบการ นักลงทุน ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำเสนอรายละเอียดของโครงการและรับฟังข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์จากภาคเอกชน (Market Sounding) มาพิจารณาประกอบการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ ตามขั้นตอนการเสนอโครงการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นการคิกออฟรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนที่จะพัฒนาพื้นที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งที่ผ่านมา นอกจากรายได้จากการเก็บค่าผ่านทางแล้ว การทางพิเศษฯ มีรายได้ในเรื่องการเก็บค่าเช่าพื้นที่ที่อาจจะไม่เต็มประสิทธิภาพ คณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จึงมีนโยบายให้ไปสำรวจพื้นที่ที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ ก็พบว่า พื้นที่บางโปรง บริเวณทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) จ.สมุทรปราการ และพื้นที่บริเวณข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต มีศักยภาพสูง น่าดึงดูดใจเอกชนให้มาร่วมลงทุน เนื่องจาก ต้องยอมรับว่า การทางพิเศษฯ ยังไม่มีความชำนาญมากนักเรื่องการหารายได้เชิงพาณิชย์ที่ไม่ใช่การเก็บค่าผ่านทาง จึงเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในทั้ง 2 โครงการ สร้างที่พักริมทางที่มีร้านค้า ธนาคาร สถานีบริการน้ำมัน สถานีชาร์จรถอีวี สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แหล่งนวัตกรรมแลศูนย์การเรียนรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยรายได้จัดแบ่งระหว่างการทางพิเศษฯกับภาคเอกชน ตามสัดส่วนที่ตกลงกัน ซึ่งจะรับฟังจากภาคเอกชนด้วยว่า จะจัดแบ่งรายได้รูปแบบใด หวังว่าทั้งสองโครงการจะประสบความสำเร็จ สร้างรายได้ให้การทางพิเศษฯ เพิ่มอีกทางหนึ่ง และ กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วย
โครงการการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษบริเวณบางโปรง มีพื้นที่ 60 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณ กม. 17 + 300 ของทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ซึ่งเป็นทางพิเศษที่มีปริมาณการจราจรสูงและมีการควบคุมการเข้าออกอย่างสมบูรณ์ (Fully Controlled Access) เป็นที่พักริมทางที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น พื้นที่จอดรถ สถานีบริการน้ำมัน สถานีอัดประจุไฟฟ้า ธนาคาร ร้านค้า สำนักงานต่างๆ ห้องน้ำ บริการข้อมูลการเดินทาง พื้นที่สีเขียว ศูนย์ปฐมพยาบาล เป็นต้น มีมูลค่าลงทุนรวมประมาณ 2,324 ล้านบาท โดยเอกชนที่เป็นต่างชาติ สามารถดำเนินกิจการได้ตามกรอบพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556
ส่วนโครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษ และ Park and Ride บริเวณข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีพื้นที่ 80 ไร่ อยู่บริเวณข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ตั้งอยู่ในพื้นที่ศูนย์กลางของการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค ใกล้เคียงชุมชนการศึกษาขนาดใหญ่และหน่วยงานต่าง ๆ สร้างเป็นที่พักริมทางและพื้นที่จอดแล้วจร (Park & Ride) อยู่ในพื้นที่เดียวกัน โครงการมีมูลค่าลงทุนรวมประมาณ 2,780 ล้านบาท
โดยวันนี้ ที่ปรึกษาโครงการ ได้ชี้แจงและรับฟังรายละเอียดต่างๆ เช่น รูปแบบการเช่าพื้นที่ รูปแบบการร่วมลงทุนและก่อสร้าง รูปแบบการจัดสรรรายได้ กรอบการดำเนินกิจการหรือการบริการที่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย เช่น ต้องไม่เป็นที่อยู่อาศัย ต้องไม่ก่อสร้างอาคารสูง ต้องไม่เปิดเป็นกาสิโน เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือประกอบกิจการที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม เป็นต้น โดยมีผู้ประกอบ และภาคเอกชนทั้งไทยและต่างชาติ ร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง
ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน โดยทั้งสองโครงการ ไม่ต้องจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะพื้นที่ในส่วนอาคารแต่ละหลังน้อยกว่า 10,000 ตารางเมตร คาดว่า ปลายปีนี้จะได้ข้อสรุป และคัดเลือกเอกชนด้วยวิธีการประมูล ก่อนนำเสนอ คณะรัฐมนตรี(ครม.) ในช่วงกลางปี 2567 เริ่มก่อสร้างโครงการช่วงปลายปี 2567 หรือต้นปี 2568 และคาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2571
#การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
#โครงการสร้างที่พักริมทาง